Page 85 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 85
84
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง
การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ความเห็นของ ศาสตราจารย์ ดร. อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
• ภาษาที่ใช้ในการกำาหนดสาระแห่งสิทธิในด้านต่างๆ ในตัวชี้วัด ควรจะต้องใช้ให้สอดคล้อง
กันทั้งหมด และควรต้องใช้ภาษาที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป นอกจากนั้นตัวชี้วัดควรใช้ภาษา
ที่เข้าใจง่าย และมีความชัดเจน ไม่ทำาให้เกิดความคลุมเครือ
• ควรแบ่งตัวชี้วัดของสิทธิในแต่ละด้านว่าเป็นพันธะหน้าที่ที่เกิดขึ้นตามกติการะหว่าง
ประเทศด้านใด (ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
หรือตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม) ทั้งนี้
เนื่องจากในการดำาเนินงานของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีกรรมการที่รับผิดชอบ
ดูแลงานทั้งสองด้านแยกกัน และมีอนุกรรมการรับผิดชอบคนละคณะ การกำาหนดว่า
ตัวชี้วัดใดเป็นตัวชี้วัดสิทธิตามกติการะหว่างประเทศฉบับใด ทำาให้มีความชัดเจน
ในการปฏิบัติงาน
• เนื้อหาสาระแห่งสิทธิตามร่างชุดตัวชี้วัดนั้นครอบคลุมสิทธิมนุษยชนตามที่รับรองไว้
ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแล้ว ในการศึกษาครั้งนี้ยังไม่ต้องคำานึงถึงการกำาหนด
ตัวชี้วัดที่ต้องการข้อมูลบ่งถึงตัวบุคคล (disaggregated data) ซึ่งเป็นรายละเอียด
ค่อนข้างมาก แต่ควรเป็นตัวชี้วัดขั้นพื้นฐานที่สำาคัญๆ
• ข้อมูลที่ต้องการตามตัวชี้วัดอาจไม่มีการจัดเก็บโดยหน่วยงานของรัฐ หรือไม่มีหน่วยงานที่
รับผิดชอบที่ชัดเจนในการเก็บรวมรวมข้อมูล นอกจากนั้น ควรคัดเลือกตัวชี้วัดที่สำาคัญๆ
ออกมาให้เหลือจำานวนไม่มาก เพื่อประโยชน์ในการประเมินการปฏิบัติตามพันธกรณี
• การแบ่งตัวชี้วัดออกเป็นสามประเภท (ตัวชี้วัดโครงสร้าง ตัวชี้วัดกระบวนการ และตัวชี้วัด
ผลลัพธ์) ทำาให้เห็นพันธะหน้าที่ของรัฐ อันจะช่วยให้มีการจัดทำาข้อเสนอเพื่อช่วยให้มี
การปรับปรุงด้านกฎหมาย และนโยบายได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสมกว่าพิจารณาเฉพาะตัวชี้วัด
ที่เป็นการละเมิด หรือใช้เหตุการณ์การละเมิดเป็นฐานในการกำาหนดตัวชี้วัด
ความเห็นของ นางเบ็ญจพร ฉัตรกุล ณ อยุธยา รองผู้อำานวยการ สำานักงานสถิติแห่งชาติ
(ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้ความเห็น จำานวน ๔ ท่าน)
• การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้น คณะผู้ศึกษาเลือกใช้กรอบการพัฒนาตัวชี้วัด
สิทธิมนุษยชนตามแนวทางที่สำานักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ที่ได้ดำาเนินการอยู่ ซึ่งได้ตอบสนองหลักการพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว
(แนวคำาสัมภาษณ์ หน้า ๖) และคณะผู้วิจัยได้ใช้การจัดทำาชุดตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนของ
สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ มาศึกษาเปรียบเทียบ
ประกอบในการจัดทำา ดังนั้น มีความเห็นว่าสาระแห่งสิทธิที่กำาหนดขึ้น น่าจะมีความ
ครอบคลุมสิทธิต่างๆ ตามที่ได้รับรองในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
• สาระแห่งสิทธิที่ได้กำาหนด ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการบังคับใช้
กฎหมาย และสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ