Page 74 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 74
73
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง
การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชน วัตถุประสงค์ ประโยชน์ และหลักการสำาคัญในการพัฒนาตัวชี้วัดด้านสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งได้มีการซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างวิทยากร คณะผู้ศึกษา กรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้เข้าร่วมการสัมมนา
หลังจากนั้นเป็นการอภิปรายและระดมความคิด เรื่อง “กรอบ แนวคิด และปัจจัยในการพัฒนา
ตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชน” ดำาเนินรายการโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิชัย ศรีรัตน์ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชน
และสันติศึกษา สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ในช่วงบ่ายเป็นการแสดงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อการอภิปรายและ
ระดมความคิดเกี่ยวกับกรอบ แนวคิด และปัจจัยในการพัฒนาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชน
ประเด็นที่ได้จากการสัมมนามีข้อสรุป ดังนี้
• ตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือที่ กสม.ใช้ในการติดตามตรวจสอบและประเมินผล
การปฏิบัติงานด้านการคุ้มครอง การเคารพ และการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของรัฐบาล
และ กสม. นอกจากนั้นยังเป็นแนวทางในการพัฒนาแผนงานและโครงการต่างๆ
ในการดำาเนินงานของ กสม.
• ตัวชี้วัดเป็นกรอบของการปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อให้มีสภาพที่เอื้อต่อ
เพื่อนมนุษย์ทั้งหมด ตัวชี้วัดทำาให้เกิดการเชื่อมต่อกับมาตรการต่างๆ ของรัฐได้
ในด้านกฎหมายและการนำาไปสู่แผนงานหรือนโยบาย (policy) และการปฏิบัติ
เพื่อให้สิทธิมีขึ้นจริง
• ตัวชี้วัดที่ดีควรจะต้องมีหลักเกณฑ์ คือ มีความเป็นสากล เช่น บนพื้นฐานของ
สนธิสัญญา ตราสาร ประกอบไปกับเกณฑ์เครื่องบ่งชี้หรือที่เป็นตัวชี้วัด การสะท้อน
หลักการไม่เลือกปฏิบัติ และจะต้องมีกลไกที่เกี่ยวข้องดำาเนินการ เช่น สำานักงาน กสม.
สำานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และศาลยุติธรรม
เป็นต้น
• ตัวชี้วัดควรคำานึงถึงความเหมาะสมมีไม่มากเกินไป และมีความง่ายพอสมควร
ในทางวิชาการจะมีหลักเรื่อง SMART Indicators ที่กล่าวถึงตัวชี้วัดที่ดี ดังนี้
- S = Strategic (มียุทธศาสตร์)
- M = Measurable (การวัดได้)
- A = Accessible (การเข้าถึงได้)
- R = Realizable (การบังคับใช้ได้ สามารถทำาได้ และทำาให้เป็นจริงได้)
- T = Time - bounded (มีกรอบทางเวลา มีกำาหนดระยะเวลาที่แน่นอน)
• การจัดทำาตัวชี้วัดควรพิจารณากรอบที่พัฒนาโดยสหประชาชาติ ซึ่งมีสามส่วน คือ
- หนึ่ง โครงสร้างหรือกลไก (Structure) เช่น การเป็นภาคีสนธิสัญญา
สิทธิมนุษยชน มีการรายงานตรงตามระยะเวลา
- สอง กระบวนการและวิธีการ (Process) นำาข้อเสนอจากคณะกรรมการ
ประจำาอนุสัญญามาพิจารณาปรับแก้ไข มีกระบวนการการรับคำาร้องเรียน
จำานวนคำาร้องเรียนที่ได้แก้ไขภายในกรอบระยะเวลา