Page 92 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 92

โดยรัฐบาลทหาร  การปราบปรามกองกำาลังชนกลุ่มน้อยซึ่งปัจจุบันยังคงมีอยู่และต้องการประกาศอิสรภาพ
                  ให้มีดินแดนของตนอยู่ในแผนที่ ยังมีแนวโน้มที่เป็นไปได้ในอนาคต

                         นอกจากปัญหาการบูรณาการชาติแล้ว พม่ายังมีปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศซึ่งโดยข้อเท็จจริง

                  อีกประการหนึ่ง คือ พม่ามีอาณาเขตติดต่อกับจีนถึง ๒,๐๐๐ กว่ากิโลเมตร ทำาให้พม่าต้องให้ความสำาคัญ
                  ในการดำาเนินการทูตระดับทวิภาคีกับจีนผ่านทางมณฑลยูนาน  โดยจีนได้เข้ามาช่วยพม่าสร้างถนนและ
                  สะพานหลายแห่งตามแนวชายแดนพม่าเพื่ออำานวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า เช่น การปรับปรุงถนน

                  พม่าเชื่อมระหว่างมัณฑะเลย์ไปยังเมืองต่างๆ ในรัฐฉาน เช่น ลาเฉียว (Lashio) และ มูเซ (Muse),  สะพาน
                         ้
                  ข้ามแม่นำาฉ่วยลี่ (Shweli) ๒ แห่งเชื่อมเมืองชายแดนพม่าและจีน คือ เมืองมูเซของพม่ากับเมืองหว่านติ้ง
                  (Wanting) และ หยุยลี่ (Ruili) ของจีนในปี ๑๙๙๒ สะพานเชื่อมหว่านติ้งกับจูกุ๊ก (Kyukok) ของพม่า
                  ในปี ๑๙๙๓

                         นอกจากนี้ จีนยังมีโครงการสร้างเขื่อนในพม่าอีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความ
                                                            ้
                  ขัดแย้งรุนแรง ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายแม่นำาพม่า (Burma Rivers Network) ให้ข้อมูลว่า
                  การสู้รบที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ใกล้กับจุดสร้างเขื่อนเดพายินและเขื่อนฉ่วยหลี่ ที่อยู่ทางตอนเหนือ
                  ของพม่าชี้ให้เห็นว่า  การเสริมกำาลังของกองทัพพม่าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับโครงการก่อสร้างเขื่อน

                  ของรัฐบาลจีนนั้น จะยิ่งทำาให้สถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น  การปะทะกันระหว่างกอง

                  กำาลังทหารพม่าและกองกำาลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Organization - KIO) บริเวณ
                  จุดสร้างเขื่อนเดพายิน ๑ และเดพายิน ๒ ที่ดำาเนินการโดยบริษัท Datang ของรัฐบาลจีน เป็นการละเมิด
                  สนธิสัญญาหยุดยิง ที่ทำาไว้เมื่อ ๑๗ ปีก่อนลงอย่างสิ้นเชิง  การสู้รบครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำานวนมาก

                  ขณะที่ประชาชนว่า ๒,๐๐๐ คนต้องอพยพหนีตายไปยังชายแดนจีน  กองทัพพม่าได้ส่งทหารหลาย
                  ร้อยนายเข้าไปประจำาการเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่โครงการสร้างเขื่อนเดพายิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ

                  ฐานทัพของ KIO  การสู้รบได้ขยายวงกว้าง มีการปะทะกันหลายครั้งใกล้กับเขื่อน ฉ่วยหลี่ ๑ ทาง ตอนเหนือ
                  ของรัฐฉานด้วยเช่นกัน  ในรัฐคะฉิ่นเพียงแห่งเดียวมีแผนการ ก่อสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ถึง ๙ แห่งที่ดำาเนินการ

                  โดยบริษัทของรัฐบาลจีน ได้แก่ เขื่อนมิตซง บนต้นน้ำาอิระวดี  การสู้รบใกล้กับโครงการก่อสร้าง เขื่อนเดพายิน
                  เกิดขึ้นหลังจาก KIO ได้ส่งสาส์นเตือนไปยังรัฐบาลจีนถึงสงครามกลางเมืองที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการก่อสร้าง

                  เขื่อนมิตซง ซึ่งการเรียกร้องให้ระงับโครงการดังกล่าวจากองค์กรต่างๆ หลายภาคส่วนกลับถูกเพิกเฉย ทั้งนี้
                  โครงการก่อสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ได้ส่งผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล

                  ขณะที่ไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านและใช้ในกองทัพ  นอกจากนี้ โครงการ
                  ก่อสร้างเขื่อนซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย ยังเป็นช่องทางการขยายกำาลังไปยังพื้นที่ดังกล่าว

                  ได้อีกด้วย (www.burmariversnetwork.org)
                                                     ้
                         ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายแม่นำาพม่า (Burma Rivers Network) กล่าวว่า โครงการสร้าง
                  เขื่อนขนาดยักษ์เหล่านี้มีแต่จะเพิ่มความขัดแย้งให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น  ขณะที่ประชาชนกลับไม่ได้รับ
                  ประโยชน์แต่อย่างใด






        


        ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97