Page 90 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 90

ความสับสน และทำาให้เกิดความรู้สึกว่าไม่จริงใจ ไม่จริงจังในเรื่องของความตั้งใจที่จะหยุดยิง
                         โดยลักษณะของการเข้าไปพูดคุยก็เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด จึงทำาให้กลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะต้อง

                  เข้ามาร่วมการเจรจาไม่มีการเตรียมความพร้อม  และไม่มีการระดมความคิดเห็นภายในกลุ่ม  เนื้อหาที่สำาคัญ

                  ของการเจรจาหยุดยิงของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ไม่ได้มุ่งประสงค์ทางด้านการเมือง  แต่เป็นเรื่องการพัฒนา
                  ในพื้นที่นั้นๆ ที่อาจจะมีโครงการพัฒนาเข้าไป  ทำาให้เห็นว่าเขาอาจไม่มีความจริงใจที่จะยอมรับสถานะ
                  ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ

                         ลักษณะเสรีภาพของสื่อยังเป็นลักษณะของการเปิดๆ ปิดๆ คือ อนุญาตให้ทำาอะไรก็ได้ และเดี๋ยว

                  ก็สั่งควบคุมอีก  ทำาให้สื่อมวลชนไม่มีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถสื่อสารกับประชาชนได้อย่างมีเสรีภาพได้
                  มากน้อยเพียงใด  และก็ยังมีลักษณะของการไม่กล้าเข้าไปสัมภาษณ์ หรือขอความคิดเห็นจากผู้ที่มีความ
                  เห็นต่างจากรัฐบาล

                         เรื่องของการที่นางอองซาน ซูจี ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็เห็นว่าเป็นลักษณะของการยอมที่จะเสี่ยง

                  สำาหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้  ซึ่งพวกเราก็เฝ้าและติดตามอย่างมีความหวังว่า การเลือกตั้งจะนำาไปสู่
                  การเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๘ ด้วย
                          อย่างไรก็ตาม ภาพที่เกิดขึ้นจากการลงประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๑ และการเลือกตั้งเมื่อ

                  พ.ศ. ๒๕๕๓  ก็ทำาให้อดห่วงไม่ได้ว่าบทบาทของทหารยังมีในเรื่องของการเมืองสูง  มีข้อสังเกตเรื่องของ

                  อำานาจ หรือการจัดสรรอำานาจ คือ อาจจะไม่มีการรวมศูนย์ และเรื่องการหยุดยิงที่คะฉิ่น มีคำาสั่งให้หยุด
                  ยิงแต่จริงๆ แล้วก็สั่งไม่ได้ และก็เป็นคำาถามที่ทุกคนก็ถามอยู่ว่า “การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการนำา
                  โดยทหาร มันจะทำาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงๆ จังๆ ในเรื่องของความเป็นอยู่ และความปลอดภัย

                  ของประชาชน รวมทั้งเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานจริงหรือไม่ ?”
                         “จริงๆ แล้วก็มองเห็นว่า รัฐบาลที่นำาโดยนายพลเต็ง เส่ง  ต้องการปฏิรูปให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

                  อย่างจริงจัง  แต่ว่าโครงสร้างทำาให้เขาไม่สามารถทำาได้  ไม่มีปัจจัยหนุนเสริมอย่างเพียงพอที่จะทำาให้เกิด
                  การปฏิรูปอย่างแท้จริง  และยังไม่เห็นรูปแบบของการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังเป็นการนำาโดยทหารอยู่

                  จากการประเมิน ยังไม่เห็นความจริงใจ และผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน  แม้ว่าจะมีการเผยแพร่
                  มาตลอดว่า  นางอองซาน ซูจี กับนายพลเต็ง เส่ง ได้มีการเจรจาพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่เนื้อหาการเจรจา

                  หรือแนวโน้มว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ถูกเผยแพร่ ทำาให้ผู้ที่เฝ้าติดตามไม่มีความเชื่อมั่นว่าการเจรจาเหล่านั้น
                  จะนำาไปสู่อะไร”

                         “สิ่งที่จะต้องทำา คือ การสร้างความเข้มแข็งกับประชาชนในพม่า ไม่ว่าจะเป็นการจัดกลุ่ม รวมกลุ่ม
                  ให้เป็นภาคประชาสังคมที่เข้มแข็ง และรณรงค์ในเรื่องการยุติสงครามที่เกิดขึ้นในประเทศ รวมทั้งการสร้าง

                  สัมพันธภาพให้เกิดขึ้น ก็ยอมรับว่าอาจจะมีบทบาทภาคประชาสังคมนอกสภาด้วย โอกาสที่อาจเกิดขึ้นก็คือ
                  ลักษณะของการทำางานร่วมกันกับภาคประชาสังคม หรือองค์กรชุมชนทั้งในประเทศหรือที่อยู่นอกประเทศ

                  ที่สามารถร่วมมือเพื่อสร้างการเคลื่อนไหว และเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร”
                         “แม้ว่าจะไม่มีการปฏิรูปอย่างจริงๆ จังๆ หรือเป็นการปฏิรูปโดยเฉพาะของคนชั้นสูง หรืออาจจะ

                  มีลักษณะของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่  แต่ว่าก็อยากจะใช้โอกาสตรงนี้ในการพยายามที่ทำาให้เกิดการ



        


        ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95