Page 87 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 87

จากพม่ามากที่สุด คือ รัฐเดียว ๗ คน นอกนั้นเผ่าละคน  เขาเลยได้รับความไม่เท่าเทียม ซึ่งก็คือปัญหาที่
                     พรรค NLD ไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้”

                            “สิ่งที่ต้องการอีกประการหนึ่ง คือ การลดอำานาจทหารลง และไม่มีสิทธิยึดอำานาจรัฐ  ดังนั้น การ

                     ที่พรรค NLD อยากเข้าไปอยู่ในสภา ทั้งๆ ที่ประชาชนไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะยังไม่ให้สิทธิที่
                     เท่าเทียมกัน  ขณะนี้ประชาชนยังไม่ยอมรับรัฐบาลของนายพลเต็ง เส่ง และกองทัพ เพราะมีความสงสัยอยู่
                     ๓ ข้อ คือ

                            หนึ่ง  รัฐบาลของนายพลเต็ง เส่ง ยังปราบปรามชนกลุ่มน้อยอยู่ เช่น กรณีโจมตีคะฉิ่น  รัฐบาลของ

                                นายพลเต็ง เส่ง เจรจาเฉพาะกับกองทัพกะเหรี่ยง ทั้งพุทธและคริสต์ และกองทัพไทใหญ่
                                เท่านั้น แต่กับคะฉิ่นกลับนำากองทัพบุกหนัก
                            สอง  รัฐบาลทหารพม่าจะเป็นประธานอาเซียน จึงพยายามสร้างภาพให้อาเซียนเชื่อว่า พม่าเป็น

                                ประชาธิปไตยแล้ว

                            สาม  ภาคประชาสังคมของพม่ายังไม่มีความเข้มแข็ง มีการเคลื่อนไหวแบบลับๆ ประกอบกับ
                                สื่อมวลชลยังไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ นักโทษการเมืองจำานวนกว่า ๖๐๐ คน
                                ก็ยังถูกขังอยู่ จึงเป็นข้อสงสัยที่ยังไม่ยอมรับแนวทางของรัฐบาล การปล่อยนักโทษการเมือง

                                อย่างนางอองซาน ซูจี และนักโทษคนอื่นๆ ออกมา แต่ผู้นำาพรรคไทใหญ่กลับไม่ปล่อยและ

                                นักโทษการเมืองคนอื่นๆ ก็ไม่ปล่อย หมายความว่าอย่างไร”
                            “กรณีพรรค NLD เองที่เลือกเข้าไปจดทะเบียนอีกครั้งก็เสี่ยงมาก  ถูกสงสัยจากสมาชิกพรรค

                     อีกอย่างหนึ่ง ยังมีกลุ่มอิสระอื่นๆ อีกมาก ที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย”


                            นายโซ อ่อง (Soe Aung) อดีตแกนนำานักศึกษาในเหตุการณ์ ค.ศ. ๑๙๘๘ และผู้ประสานงาน

                     ฝ่ายต่างประเทศของ Forum For Democracy in Burma ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์
                     ความรุนแรงเมื่อ ค.ศ. ๑๙๘๘ มีทั้งสมาชิกสามัญชนและสมาชิกในระดับองค์กร ได้แสดงจุดยืนของตนว่า

                            หากรัฐบาลทหารพม่าต้องการประชาธิปไตย ก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปิดกั้นประชาธิปไตยและ
                     ปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด

                            “แนวทางที่เราเรียกร้องในตอนนั้น คือ ยืนอยู่บนแนวทางสันติวิธี เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
                     เราไม่ใช้ความรุนแรงเลย  แต่พอหลังวันที่ ๑๘ กันยายน ค.ศ. ๑๙๘๘ ที่เราถูกปราบปราม  เราก็เลยจับปืน

                     ลุกขึ้นต่อสู้กับกองทัพ มาเร่ร่อนอยู่กับชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มปะโอ ซึ่งมีเพื่อนนักศึกษา
                     ปัญญาชนหนีเข้าป่ามาจับปืนมากมายเลยในตอนนั้น  เราแต่งตั้งกลุ่มนักศึกษา ABSDF (All Burma

                     Student’s Democratic Front) หรือแนวร่วมนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยในพม่า  เราติดอาวุธต่อสู้
                     กับรัฐบาล  ผมอยู่ฝ่ายต่างประเทศมาตั้งแต่นั้น  เนื่องจากผมเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น

                     ทั้งไทใหญ่ ปะโอ  เราตั้งค่ายไปตลอดแนวชายแดนไทย - พม่า  จากนั้นก็มาอยู่ที่ ABSDF เนื่องจากมีความ
                     สามารถในการประชาสัมพันธ์ด้วย  อุดมการณ์ของเราในยุคนั้นมี ๒ แนว คือ ต้องใช้อาวุธ กับต้องสันติ

                     วิธีผ่านการเมือง  ต่อมาก็เลยแตกอุดมการณ์ เราเลือกแนวทางการเมืองเพราะว่าประชาคมโลกเริ่มไม่



                                                                                                            


                                      ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92