Page 74 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 74
โดยมีเป้าหมายในการควบคุมผู้ลี้ภัยการสู้รบให้อยู่ในพื้นที่ที่กำาหนดเท่านั้น และวางกำาลังเจ้าหน้าที่เพื่อ
ควบคุมพื้นที่ไว้เป็นการเฉพาะ และรัฐบาลไทยมีนโยบายเด็ดขาดในการดำาเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบ
โดยกระทรวงมหาดไทยกำาหนดว่า ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบเป็นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภายใต้พระราช
บัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ และไม่ใช่บุคคลที่ได้รับการผ่อนผันให้พักอาศัยอยู่ในประเทศเป็นการ
ชั่วคราวตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ เพียงแต่มีมติสภาความมั่นคง
แห่งชาติและแนวทางปฏิบัติที่ผ่อนปรนให้ผู้ลี้ภัยการสู้รบพักอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวเพื่อรอการ
ส่งกลับเมื่อเหตุการณ์การสู้รบยุติลง
ดังนั้น หากผู้ลี้ภัยจากการสู้รบลักลอบออกนอกพื้นที่ควบคุมจะถูกจับดำาเนินคดีเป็นบุคคลต่างด้าว
เข้าเมืองผิดกฎหมายทันที และดำาเนินการส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรโดยใช้อำานาจตามพระราชบัญญัติ
คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ทำาให้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มีบทบาทสำาคัญในการควบคุม
ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบและเป็นเครื่องมือที่ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบหวั่นเกรง เพราะผู้ลี้ภัยจากการสู้รบนั้นกลัว
มาตรการถูกลงโทษด้วยการส่งกลับประเทศ
รัฐบาลไทยยินยอมให้ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
๑) ยอมให้อยู่ในราชอาณาเขตประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว เมื่อผู้ลี้ภัยจากการสู้รบข้าม
ชายแดนเข้ามาเขตประเทศไทยจะอำานวยความสะดวกและช่วยเหลือให้ที่พักพิงชั่วคราว
ในพื้นที่ปลอดภัยบนพื้นฐานของหลักมนุษยธรรม
๒) ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบต้องอยู่ในพื้นที่ที่ทางราชการจัดให้เท่านั้น และสถานที่นั้นเป็นพื้นที่พักพิง
ชั่วคราว ไม่ใช่ค่ายผู้ลี้ภัย
๓) เมื่อการสู้รบในประเทศพม่าสิ้นสุดลง หรือเมื่อสภาวะความไม่สงบ ความไม่ปลอดภัย
ผ่านพ้นไป ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบต้องเดินทางกลับประเทศของตนทันที โดยฝ่ายไทยจะเป็น
ผู้อำานวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือให้เดินทางกลับประเทศด้วยความปลอดภัย
และสมศักดิ์ศรี
อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยจะกำาหนดว่า “เมื่อการสู้รบในประเทศพม่าสิ้นสุดลงหรือเมื่อสภาวะ
ความไม่สงบ ความไม่ปลอดภัยผ่านพ้นไป ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบต้องเดินทางกลับประเทศของตนทันทีโดย
ฝ่ายไทยจะเป็นผู้อำานวยความสะดวกและให้ความช่วงเหลือให้เดินทางกลับประเทศด้วยความปลอดภัยและ
สมศักดิ์ศรี” แต่ประเทศไทยก็ไม่ได้มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอันตราย หรือความเสี่ยงในพื้นที่ที่ผู้ลี้ภัย
จะต้องถูกส่งตัวกลับแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการไม่ส่งผู้ลี้ภัยกลับไปสู่อันตราย และเพื่อเป็นกรอบทาง
กฎหมายที่ชัดเจนแน่นอนสำาหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย จึงเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไข
พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ในมาตรา ๕๔ ซึ่งเป็นบทบัญญัติหลักที่ให้อำานาจเจ้าหน้าที่ส่ง
คนต่างด้าวออกนอกประเทศ โดยต้องบัญญัติเพิ่มเติมให้มีการพิจารณาความเสี่ยงของที่บุคคลนั้นๆ
จะได้รับอันตรายต่อชีวิตและเสรีภาพ และปรับปรุงนโยบายของรัฐในการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัย โดยบัญญัติ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒