Page 56 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 56
แนวทางปฏิบัติเราทำางานภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ในศูนย์อพยพแต่ละแห่งมีผู้หนีภัยอยู่ และ
เราไม่เคยผลักดันออกไป ก็เข้ามาเรื่อยๆ ใน พ.ศ. ๒๕๔๘ UNHCR ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยได้สำารวจ
ผู้หนีภัยจากการสู้รบในศูนย์ทั้งหมด ๙ แห่ง และได้เพิ่มเงื่อนไขอื่นๆ คือ หนีภัยจากการเมือง หนีภัยจาก
เศรษฐกิจ ถ้าเกี่ยวโยงกับเรื่องการสู้รบ เช่น ถูกยึดที่ทำากิน เราก็ให้ ณ ปัจจุบันจากการสำารวจและที่ได้
รับการดูแล มีเกือบ ๒๐๐,๐๐๐ คน แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขนี้ได้ เพราะว่าเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของ
สิทธิมนุษยชน ไม่เคยมีการผลักดันกลับประเทศ
ปัจจุบันกองกำาลังชายแดนทางตะวันตกมีความหลากหลาย ทั้งกลุ่มที่ทำาสัญญาหยุดยิงกับทหาร
พม่าแล้ว และกลุ่มที่ยังไม่หยุดยิง ล่าสุดทราบมาว่าที่ อ.ท่าสองยาง มีการยิงกันอยู่ ก็แสดงให้เห็นว่า
สถานการณ์ชายแดนทางฝั่งตะวันตกยังความอึมครึมและไม่มีความชัดเจนต่อไป
ทางอำาเภอแม่สอดได้วิเคราะห์สภาพปัญหาผู้อพยพหนีภัย ๒๕,๐๐๐ คน ร่วมกับกลุ่มองค์กร
นักพัฒนาชาวพม่าเพื่อจัดทำาแผนเผชิญเหตุด้านการอพยพผู้หนีภัย โดยแบ่งซอยย่อยพื้นที่พักพิงใน
อ.แม่สอด แห่งละไม่เกิน ๕,๐๐๐ คน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ
สรุป คือ ผู้ลี้ภัยมี ๒ ประเภท คือ
๑) ผู้ลี้ภัยที่อยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ๙ แห่ง (ถาวรและอยู่นาน)
๒) ผู้หนีภัยตามสถานการณ์/ชั่วคราว (เมื่อมีการสู้รบก็อพยพมา และเมื่อสิ้นสุดการสู้รบก็
เดินทางกลับ)
ซึ่งขั้นตอนการดูแลจะยึดหลักเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก แต่ปัญหาที่ผ่านมาที่หน่วยราชการ
ถูกโจมตี คือ เรื่องการส่งกลับ มีการโจมตีว่าทางราชการไทยผลักดันกลับ ขณะที่สถานการณ์ฝั่งพม่ายังมี
การสู้รบกันอยู่ ตอนนี้ เราได้หารือกับ UNHCR และ NGOs ที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีรูปแบบคณะกรรมการ
ที่ดูแลเรื่องนี้ กล่าวคือ
เมื่อมีสถานการณ์สู้รบเกิดขึ้น จะมีการจัดเตรียมที่พักรอ จะมีทหารเป็นผู้ดูแล คัดกรอง ปลดอาวุธ
แยกกลุ่มไหนเป็นผู้ได้รับผลกระทบจริง หรือกลุ่มไหนเป็นกองกำาลังไม่ทราบฝ่าย แล้วส่งต่อให้ฝ่ายปกครอง
ทางอำาเภอก็จะจัดตั้งพื้นที่พักพิงร่วมกับ UNHCR รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดเมื่อไร
โดยการประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงว่า เมื่อสถานการณ์ฝั่งโน้นสงบก็จะมีการส่งกลับในแนวทางที่
ปลอดภัย โดยมี UNHCR และ NGOs ที่เกี่ยวข้องร่วมวางแผนการส่งกลับ
ผู้แทนนายอำาเภอเวียงแหง จ.เชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า
ที่ อ.เวียงแหง มีศูนย์พักรอเหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้เป็นผู้ลี้ภัย ตอนนี้มีสถานะถือว่าเป็นผู้หลบหนี
เข้าเมืองผิดกฎหมาย กลุ่มนี้หลบหนีเข้ามาในลักษณะกระจัดกระจาย อยู่ตามบ้านญาติต่างๆ ไม่ได้มาอยู่
ร่วมกันตั้งแต่แรก ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ฝ่ายปกครองได้ไปรวบรวมให้มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ โดยมี
NGOs หลายๆ หน่วยเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการสร้างศูนย์ และ UNHCR สนับสนุนในเรื่องอาหาร
เป็นเวลา ๑ ปี และก็งดไป ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ ๔๙๐ คน สถานะก็ยังคงเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง
ผิดกฎหมาย ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย เพราะว่าเราไม่มีงบประมาณก็เลยไม่รับรองให้เป็นผู้ลี้ภัย มีแต่การให้อาหาร ข้าว
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒