Page 40 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 40

เราก็ต้องให้ ขัดไม่ได้  ตอนนี้ลูกหลานก็หนีมาอยู่ที่ประเทศไทยหมดแล้ว ไม่กลับไปแล้ว อยู่เมืองไทยดีกว่า
                  อยู่ที่พม่านอนในบ้านไม่ได้เลย”


                         ๔)  อ.แม่สาย  จ.เชียงราย

                             การสู้รบครั้งใหญ่ในพม่าเมื่อปลายปี  พ.ศ. ๒๕๕๓  ส่งผลกระทบมาถึง อ.แม่สาย ด้วย
                  จากการสัมภาษณ์ผู้อำานวยการศูนย์พัฒนาการศึกษาเพื่อลูกหญิงและชุมชน จ.เชียงราย  พบว่า

                  ผู้หนีภัยที่เข้ามาทางด่านที่ อ.แม่สาย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เข้ามาอาศัยอยู่กับญาติ เนื่องจาก
                  เป็นพื้นที่ปลอดภัย  (Safe  zone)  ชายแดนฝั่งพม่าที่ติดกับเชียงรายเป็นเขตรัฐฉาน  มีทหารเป็น
                                                               ้
                  กองกำาลังรักษาสันติภาพ คอยรักษาไว้ให้เป็นอู่ข้าวอู่นำา เป็นเขตที่ค่อนข้างปลอดภัยสำาหรับพลเมือง
                  และเป็นแหล่งผลิต บริเวณชายแดนที่มีการอพยพไป - มา จะเป็นป่าเขาบริเวณตะเข็บในเขต อ.แม่ฟ้าหลวง


                         ๕)  อ.เวียงแหง  จ.เชียงใหม่

                             เป็นพื้นที่ติดชายแดนที่เคยมีการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับกองกำาลังรัฐฉาน
                  เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕  นานกว่าหนึ่งเดือน ฝ่ายทหารพม่าได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจำานวนมาก ในระหว่าง

                  การสู้รบมีชาวบ้านจาก ๔ หมู่บ้านตามบริเวณชายแดนไทย-พม่าอพยพเข้ามาในฝั่งไทยประมาณ ๙๐๐ คน /
                  ๒๕๐ ครัวเรือน อาศัยอยู่ฝั่งไทยในบริเวณวัดฟ้าเวียงอินทร์ หลังเหตุการณ์สู้รบสงบ ทหารพม่าได้ปิดช่องทาง

                  ผ่านแดนหลักแต่งและได้ฝังทุ่นระเบิดตามบริเวณชายแดนเป็นจำานวนมาก
                             สำาหรับผู้ที่อพยพเข้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ปัจจุบันมีอยู่ ๑๓๒ ครัวเรือน ประชากร

                  ๕๑๐ คน ถูกจัดให้อยู่ติดกับชายแดน บนสันดอย “เมืองจ่อ” ถูกจำากัดพื้นที่ในการเดินทาง แต่สามารถ
                  ออกไปทำางานรับจ้างในภาคเกษตรบริเวณใกล้เคียงได้  เหตุผลที่ต้องการอยู่ในประเทศไทย คือ โอกาสใน

                  การศึกษาของเด็กๆ
                             ผู้หนีภัยกลุ่มนี้ไม่ต้องการกลับพม่า  เนื่องจากไม่มั่นใจสถานการณ์ความปลอดภัยในฝั่งพม่า

                  ไม่ทราบว่ามีกับระเบิดอยู่ที่ใดบ้าง  และไม่มั่นใจในสถานการณ์ยุติการสู้รบอาจเป็นสถานการณ์ชั่วคราว
                  ช่องทางผ่านแดนหลักแต่งได้ถูกทหารพม่าปิดตายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕




                  บทบาทของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

                         สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ดังกล่าว ทำาให้หน่วยงานรัฐด้านความมั่นคงต้องเข้าไปมีบทบาท

                  ในการแก้ไขปัญหาของผู้หนีภัยสงคราม ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจว่า แต่ละหน่วยงานมีนโยบายต่อผู้หนีภัย

                  จากการสู้รบอย่างไร  และบทบาทของแต่ละหน่วยงานในพื้นที่เป็นอย่างไร เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน
                  สากลที่พึงปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยหรือผู้หนีภัยสงครามหรือไม่  คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิ
                  ทางการเมืองจึงได้จัดเวทีสัมมนานโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพ

                  จากภัยสงคราม เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔  ณ  ห้อง ๗๐๙ สำานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

                  แห่งชาติ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กล่าวถึงนโยบายและบทบาทของหน่วยงาน ดังนี้



        


        ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45