Page 38 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 38

ภาวะยากลำาบาก  สถานการณ์การหนีภัยจากการสู้รบตามแนวตะเข็บชายแดนหลังจากการสู้รบเมื่อปลายปี
                  พ.ศ. ๒๕๕๓ จนถึงปัจจุบันของแต่ละพื้นที่มี ดังนี้


                         ๑)  อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๓
                             มีผู้หนีภัยเข้ามาที่อำาเภอแม่สอดประมาณ ๒๕,๐๐๐ คน ได้รับการดูแลจากอำาเภอและ

                  กองกำาลังผาเมืองโดยจัดที่พักพิงชั่วคราวให้  เมื่อฝ่ายทหารได้รับข่าวว่าการสู้รบในฝั่งพม่าสงบลงแล้ว

                  ได้จัดการส่งผู้หนีภัยกลับพม่า  แต่การสู้รบมิได้ยุติลงจริง ทำาให้ผู้หนีภัยต้องกลับเข้ายังฝั่งประเทศไทย
                  อีก ๓ - ๔ รอบ  ปัจจุบันไม่มีการสู้รบทางฝั่งพม่า  ผู้หนีภัยส่วนใหญ่จึงกลับไปยังถิ่นที่อยู่ของตนแล้ว
                  เพราะมีที่ดินทำากินและเรือกสวนไร่นาที่ต้องดูแล  แต่มีบางส่วนไม่อยากกลับเพราะไม่ต้องการอยู่ใน

                  พื้นที่ที่อาจเกิดการสู้รบอีกเมื่อใดก็ได้ จึงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ ๓ อำาเภอ คือ อ.พบพระ อ.อุ้มฝาง และ

                  อ.ท่าสองยาง รวมทั้งสิ้นประมาณ ๔,๐๐๐ คน
                             ผู้หนีภัยที่เป็นเด็กประมาณ ๓,๐๐๐ คน ต้องพักพิงอยู่ในบ้านพักซึ่งเรียกว่า Boarding
                  House ซึ่งเกิดขึ้นจากผู้ที่หนีภัยเข้ามาก่อนเป็นเวลานาน ได้ประสานงานกับองค์กรที่ให้การสนับสนุน

                  ผู้ลี้ภัยให้เข้ามาสนับสนุนงบประมาณในการจัดชั้นเรียนเพื่อให้การศึกษาแก่เด็ก  พร้อมทั้งสนับสนุน

                  ค่าอาหารด้วย  เด็กที่อยู่ใน Boarding House ประมาณร้อยละ ๖๐ - ๗๐ มาจากภาวะสงคราม สภาพ
                  ความเป็นอยู่ของเด็กค่อนข้างลำาบาก สำาหรับผู้ที่อยู่ในวัยแรงงาน ก็จะมีอาชีพรับจ้างรายวันในภาคเกษตร
                                                   ่
                  ได้ค่าแรงวันละ ๘๐ บาท ขณะที่ค่าแรงขั้นตำาใน จ.ตาก ขณะนั้นมีอัตราวันละ ๑๗๐ บาท

                         ๒)  อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

                             จากการสู้รบครั้งใหญ่เมื่อปี  พ.ศ. ๒๕๓๙  ทำาให้มีผู้หนีภัยทะลักเข้ามาในพื้นที่ของ
                  จ.แม่ฮ่องสอน จำานวนมาก พื้นที่พักพิงชั่วคราวหนีภัยการสู้รบใน จ.แม่ฮ่องสอน มี ๔ แห่ง คือ

                             •  พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่สุริน  ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม
                             •  พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่ลามาหลวง  ต.สบเมย อ.สบเมย

                             •  พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่ละอูน  ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย
                             •  พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านใหม่ในสอย  ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

                             พื้นที่พักพิงทุกแห่งอยู่ในความดูแลของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยจากพม่า

                  ประกอบด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคง
                  แห่งชาติ  เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการควบคุมดูแลผู้หนีภัยสงคราม  รวมถึงการแก้ไขปัญหาระยะยาว
                                                                                            ้
                  สำาหรับผู้หนีภัยที่อยู่นอกค่าย  ซึ่งเข้ามานานแล้ว  ได้สร้างที่อยู่อาศัยแบบถาวรติดกับแม่นำาสาละวิน
                  ที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย

                             ผู้หนีภัยกลุ่มนี้ถูกจำากัดการเดินทางออกนอกพื้นที่  ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง รายได้เฉลี่ย
                  ต่อเดือนๆ ละ ๓,๐๐๐ บาท ทำาให้เด็กๆได้มีโอกาสเรียนหนังสือแค่ระดับประถมศึกษา แต่ไม่สามารถ

                  เรียนต่อในระดับที่สูงกว่านั้นได้





        


        ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43