Page 31 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 31

กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย


                            ประเทศไทยได้รับการยกย่องจากนานาชาติที่ได้รองรับผู้ลี้ภัยจำานวนมากจากกัมพูชา ลาว และ
                     เวียดนามในช่วง พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่หลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทย หนีภัยจากเหตุการณ์ที่เรียกว่า “วิกฤติผู้ลี้ภัย
                     ชาวอินโดจีน”  มีผู้ลี้ภัยจำานวนมากกว่า ๑,๓๐๐,๐๐๐ คนได้รับการช่วยเหลือให้พักพิงอยู่ในประเทศไทย

                     เป็นระยะเวลาหลายปี

                            ปัจจุบันนี้มีผู้ลี้ภัยในประเทศไทยที่ได้รับการลงทะเบียนจาก UNHCR แล้ว ประมาณ ๙๕,๐๐๐ คน
                     และมีผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขอลี้ภัยอีกราว ๙,๐๐๐ คน  ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่ากะเหรี่ยง
                     และเผ่ากะเหรี่ยงแดงจากพม่า ซึ่งพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว จำานวน ๙ แห่ง ใน ๔ จังหวัดชายแดน

                     ไทย-พม่า

                            รัฐบาลไทยเป็นผู้บริหารจัดการศูนย์พักพิง โดยได้รับความช่วยเหลือเกือบทั้งหมดจากองค์กรพัฒนา
                     เอกชน (NGOs) มีผู้ลี้ภัยจำานวนมากกว่า ๕๕,๐๐๐ คนจากพม่า และจำานวนอีกเล็กน้อยจากประเทศอื่นๆ
                     ได้เดินทางออกจากประเทศไทยเพื่อเข้าไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา

                     และออสเตรเลีย ที่จะรองรับผู้ลี้ภัยจำานวนมากจากประเทศไทย

                            อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาตามสิทธิต่างๆ ตามอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ๑๙๕๑ แล้ว
                     ประเทศไทยได้ออกกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัย  ซึ่งสามารถจำาแนกได้
                     ตามสิทธิในอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ.๑๙๕๑ ได้ดังนี้



                     สิทธิในการไม่ถูกขับไล่ สิทธิในการไม่ถูกผลักดันกลับ (non - refoulement)

                             กฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิในการไม่ถูกขับไล่  และสิทธิในการไม่ถูกผลักดันกลับ คือ
                     พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒  มี ๒ มาตราที่เกี่ยวข้อง คือ

                              มาตรา ๒๒  “ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจ พบว่า คนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะต้องห้าม
                        มิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา ๑๒ เข้ามาในราชอาณาจักร  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจ

                        สั่งให้คนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรได้ โดยมีคำาสั่งเป็นหนังสือ…”
                              และ  มาตรา ๕๔  “คนต่างด้าวผู้ใดเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือ

                        การอนุญาตนั้นสิ้นสุด  หรือถูกเพิกถอนแล้ว  พนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไป
                        นอกราชอาณาจักร ก็ได้”

                            พนักงานเจ้าหน้าที่จึงมีอำานาจในการส่งคนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักร ตามมาตรา ๒๒
                     วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยไม่คำานึงถึงการมีอยู่ของหลักการสิทธิ

                     ในการไม่ถูกขับไล่ สิทธิในการไม่ถูกผลักดันกลับ


                     สิทธิในการไม่ถูกลงโทษทางอาญา เพราะการเข้าเมืองหรือการปรากฏตัว

                     อย่างผิดกฎหมายในรัฐ

                            กฎหมายและแนวปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคต่อการคุ้มครองสิทธิในการไม่ถูกลงโทษทางอาญาเพราะ


                                                                                                            


                                      ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36