Page 29 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 29
อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน การปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
่
หรือยำายีศักดิ์ศรี ค.ศ. ๑๙๘๔
อนุสัญญาฉบับนี้มุ่งคุ้มครองสิทธิมนุษย์ทุกคน ผู้ลี้ภัยในฐานะมนุษย์คนหนึ่งย่อมได้รับความ
คุ้มครองตามอนุสัญญาฉบับด้วย โดยหลักการห้ามผลักดันกลับถูกบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งใน มาตรา ๓ (๑)
“ไม่มีรัฐภาคีใดจะขับไล่ส่งกลับ (ผลักดันกลับ) หรือส่งมอบตัวบุคคลไปยังรัฐอื่น ที่ซึ่ง
มีมูลเหตุเพียงพอจะเชื่อได้ว่าเขาอาจตกอยู่ในอันตรายจากการทรมาน”
โดยบทบัญญัติตามมาตรานี้ ไม่สามารถยกเลิกเพิกถอนและกำาหนดข้อยกเว้นได้ จึงให้ความ
คุ้มครองแก่ผู้ลี้ภัยดีว่าหลักการเดียวกันที่ปรากฏในอนุสัญญาสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑ ซึ่งมีกำาหนด
ข้อยกเว้นกรณีที่ผู้ลี้ภัยไม่สามารถอ้างประโยชน์จากหลักการห้ามผลักดันกลับขึ้นอ้างได้ ในกรณีเป็นผู้ลี้ภัย
ที่มีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ หรือมีคำาพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำาผิดอาญา
ร้ายแรงอันเป็นภัยต่อประชาคมของประเทศนั้น
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
กติกาฉบับนี้ไม่ได้กล่าวถึงหลักการห้ามผลักดันกลับโดยชัดแจ้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณา
ตามมาตรา ๗ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า
“ไม่มีผู้ใดจะตกอยู่ภายใต้การทรมาน การปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย
่
ไร้มนุษยธรรม หรือยำายีซึ่งศักดิ์ศรี”
จากบทบัญญัติในมาตรานี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Human
Rights Committee) ได้ตีความไว้ใน UN Human Rights Committee, General Comment No.๒๐
(๑๙๙๒), UN Doc. HRI/GEN/REV. 1,30, (28 July 1994) ว่า รัฐภาคีต้องไม่ให้ปัจเจกชนตกอยู่ใน
่
อันตรายจากการทรมาน ปฏิบัติ หรือลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือยำายีซึ่งศักดิ์ศรีจากการกลับคืน
สู่ประเทศอื่นโดยการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน การขับไล่ หรือการผลักดันกลับบุคคลใดออกจากดินแดน
ซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีความเสี่ยงที่แท้จริงต่ออันตรายที่ไม่สามารถเยียวยาได้ โดยสิทธินี้เป็นสิทธิของ
คนทุกคนที่อยู่ในดินแดนและในทุกสถานการณ์โดยไม่อาจเพิกถอนได้ จากการตีความดังกล่าวนี้เอง ทำาให้
บทบัญญัติในมาตรา ๗ นี้ มีขอบเขตที่ครอบคลุมถึงหลักการห้ามผลักดันกลับ ด้วย
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กไม่ได้มีการกล่าวถึงหลักการห้ามการผลักดันกลับโดยตรง แต่มี
มาตรา ๗ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า
“ไม่มีบุคคลใดตกอยู่ภายใต้การทรมานหรือการปฏิบัติ หรือลงโทษอื่นที่โหดร้าย
่
ไร้มนุษยธรรมหรือยำายีศักดิ์ศรี”
จากมาตรานี้ คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ (Committee on the
rights of the Child) ได้ขยายขอบเขตของมาตรานี้ ไว้ใน General Comment No.6 (2005) on the
Treatment of unaccompanied and separated children outside their country of origin, UN
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒

