Page 27 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 27

ประการที่สอง  ที่ตั้งด้านภูมิศาสตร์ของประเทศไทยมีชายแดนติดกับประเทศต่างๆ ซึ่งเพื่อนบ้าน
                                          ่
                     เหล่านั้นยังมีการพัฒนาที่ตำากว่าประเทศไทย จึงมีการอพยพเข้ามาในประเทศไทยโดยอ้างสาเหตุต่างๆ
                     นานา

                            การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑ นั้น อาจเป็นปัจจัยดึงดูดให้มี
                     ผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้าในประเทศไทยเป็นจำานวนมาก
                            ทั้งนี้ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและฝ่ายความมั่นคงได้มีพิจารณาข้อดีข้อเสียหลายครั้งและ

                     ยังเห็นว่า ประเทศไทยไม่ควรเข้าเป็นรัฐภาคีสมาชิกของอนุสัญญานี้  แต่กระทรวงการต่างประเทศมีความ

                     พยายามจะได้รื้อฟื้นกระบวนการคณะทำางานเพื่อพิจารณาความเหมาะสมสำาหรับการที่ประเทศไทยจะ
                     เข้าเป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาฯ  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำาเนินการตามข้อเสนอต่อประเทศไทย
                     จากการประชุมรายงานสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

                     ในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕




                                         พิธีสารเกี่ยวกับสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๖๗

                            อนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย  ค.ศ. ๑๙๕๑  เป็นตราสารระหว่างประเทศที่ได้ถูกร่างขึ้น

                     ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีการกำาหนดคำานิยามของคำาว่า “ผู้ลี้ภัย” ไว้ในอนุสัญญา แต่การ
                     บังคับใช้อนุสัญญาว่าดังกล่าว กลับพบว่ามีข้อจำากัดสำาคัญสองประการ ได้แก่

                            ข้อจำากัดด้านภูมิศาสตร์  ผู้ลี้ภัยตามอนุสัญญาฯ ฉบับนี้จะต้องเป็นผู้ลี้ภัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
                     ในทวีปยุโรป

                            ข้อจำากัดด้านเวลา  เหตุการณ์ที่จะทำาให้บุคคลนั้นเป็นผู้ลี้ภัยตามอนุสัญญาฯ นี้ได้ ต้องเป็น
                     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน วันที่ ๑ มกราคม ค.ศ. ๑๙๕๑

                            จากข้อจำากัดทั้งสองประการดังกล่าว  ทำาให้อนุสัญญาฯ นี้ไม่สามารถใช้กับผู้ลี้ภัยในสถานการณ์
                     ใหม่ๆ ได้  และปัญหาผู้ลี้ภัยก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา  พิธีสารเกี่ยวกับสถานภาพผู้ลี้ภัย

                     ค.ศ. ๑๙๖๗ จึงได้ถูกจัดทำาขึ้น เพื่อแก้ไขข้อจำากัดดังกล่าวของอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑
                            แต่ทั้งนี้ พิธีสารเกี่ยวกับสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๖๗ เป็นตราสารที่เป็นอิสระ รัฐภาคีของพิธีสาร

                     ไม่จำาเป็นต้องเข้าเป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑ ซึ่งปัจจุบันประเทศ
                     ที่เข้าเป็นภาคีของพิธีสารเกี่ยวกับสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๖๗ ทั้งสิ้น ๑๔๕ ประเทศ






                                   หลักการห้ามผลักดันกลับ (Non–Refoulement Principle)

                            ตามหลักเรื่องอำานาจอธิปไตยของรัฐ  รัฐย่อมมีอำานาจในการพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้าสู่

                     ดินแดน และออกจากดินแดนของตน  อย่างไรก็ตาม อำานาจของรัฐในการส่งตัวคนต่างด้าวออกจาก
                     ดินแดนนั้น มีข้อจำากัดตามกฎหมายระหว่างประเทศ  ตามหลักการห้ามผลักดันกลับ หรือหลักการไม่ส่ง



                                                                                                            


                                      ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32