Page 24 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 24

่
                  อนุสัญญาฯ เป็นเพียงสิทธิขั้นตำา  รัฐภาคีสมาชิกจึงสามารถให้สิทธิที่นอกเหนือจากที่กำาหนดไว้จากผู้ลี้ภัย
                  ได้ สิทธิสำาคัญที่บัญญัติไว้ในอนุสัญญาได้

                             ทั้งนี้ สิทธิมนุษยชนที่สำาคัญที่ได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย

                  ค.ศ. ๑๙๕๑ ได้แก่
                             สิทธิในการไม่ถูกขับไล่หรือส่งกลับ (ผลักดัน) มาตรา ๓๓ (๑)
                                “รัฐภาคีผู้ทำาสัญญาจะไม่ขับไล่หรือส่งกลับ(ผลักดัน)ไม่ว่าจะโดยลักษณะใดๆ ไปยัง

                     ชายแห่งดินแดน  ซึ่ง ณ ที่นั้นชีวิตหรืออิสรภาพของผู้ลี้ภัยอาจได้รับการคุกคามด้วยสาเหตุทาง

                     เชื้อชาติ ศาสนา สมาชิกภาพของกลุ่มทางสังคมเฉพาะ หรือความคิดเห็นทางการเมือง”
                             บทบัญญัติมาตรานี้เป็นการรับรองหลักกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศหนึ่งที่มี
                  ความสำาคัญและเป็นที่ยอมรับในสังคมระหว่างประเทศ คือ หลักห้ามผลักดันกลับ (non-refoulement)

                  ซึ่งเป็นหลักการสำาคัญ อันจะได้กล่าวถึงต่อไป

                             อย่างไรก็ตามอนุสัญญาฯ นี้ได้วางข้อจำากัดเรื่องการอ้างประโยชน์ของหลักการห้ามผลักดัน
                  กลับ  โดยระบุว่า ผู้ลี้ภัยไม่อาจกล่าวอ้างสิทธินี้ได้ หากมีเหตุอันสมควรถือได้ว่าผู้ลี้ภัยเป็นภัยต่อความ
                  มั่นคงของประเทศที่เข้าไปพำานัก หรือโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดตัดสินว่ากระทำาความผิดร้ายแรงอันเป็นภัย

                  ต่อประชาคมของประเทศนั้น (มาตรา ๓๓ (๒) )

                             สิทธิในการไม่ถูกขับไล่จากอาณาเขตของรัฐ มาตรา ๓๒

                                “รัฐภาคีผู้ทำาสัญญาจะไม่ขับไล่ผู้ลี้ภัยซึ่งชอบด้วยกฎหมายจากอาณาเขตของตน
                     เว้นเสียแต่เพื่อความมั่นคงของชาติ หรือเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน”

                             สิทธิในการไม่ถูกขับไล่จากอาณาเขตของรัฐนี้  ข้อพิจารณาสำาคัญอยู่ที่การขับไล่ผู้ลี้ภัย
                  ออกจากอาณาเขตของตนเสีย  ไม่ได้คำานึงว่าเมื่อขับไล่ไปแล้ว  ผู้ลี้ภัยจะถูกคุกคามชีวิตหรืออิสรภาพ

                  หรือไม่ จึงทำาให้ต่างกับกรณีการขับไล่หรือส่งกลับ ตามหลัก non-refoulement ที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้

                             สิทธิในการไม่ถูกลงโทษทางอาญาในความผิดฐานเข้าเมืองหรือปรากฏตัวโดยผิดกฎหมาย

                  มาตรา ๓๑
                             รัฐภาคีผู้ทำาสัญญาจะไม่ลงโทษทางอาญา  ด้วยเหตุแห่งการเข้าเมืองหรือการปรากฏตัวโดย

                  ผิดกฎหมายแก่ผู้ลี้ภัย  อย่างไรก็ตามอนุสัญญาฯ ได้กำาหนดไว้ว่า  ผู้ลี้ภัยจะอ้างสิทธิตามมาตรานี้ได้ก็ต่อเมื่อ
                                “หากผู้ลี้ภัยได้เดินทางโดยตรงมาจากดินแดนซึ่งชีวิตหรือเสรีภาพถูกคุกคามตาม

                     ความหมายของมาตรา ๑ เข้ามาหรือปรากฏตัวในอาณาเขตโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ลี้ภัยต้องมา
                     รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่  และแสดงเหตุอันควรเชื่อได้ในการเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือการปรากฏตัว

                     โดยผิดกฎหมาย”
                             นอกจากนี้  สิทธิมนุษยชนที่สำาคัญยังรวมถึงสิทธิในการไม่ถูกเลือกปฏิบัติ  สิทธิเสรีภาพ

                  ในการเลือกนับถือศาสนา  สิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม  เสรีภาพในการเดินทาง  สิทธิในการมี
                  เอกสารแสดงตัวบุคคล  สิทธิในการศึกษา  ที่พักอาศัย  ทางสาธารณสุข  และสิทธิในการทำางาน




        


        ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29