Page 77 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 77
คัดเลือกและเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเพื่อให้ได้รัฐบาลที่ดีท าหน้าที่พิทักษ์สิทธิของประชาชน ค าขวัญที่
แพร่หลายในยุคนี้คือ เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ
ปรัชญาเมธีชาวฝรั่งเศสอีกผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียงร่วมสมัยเดียวกันกับรุสโซคือ มองเตสกิเออ
(Montesquieu) ได้เสนอแนวความคิดในการจัดระบบสิทธิธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพไว้ในหนังสือ
ชื่อ “เจตนารมณ์ แห่งกฎหมาย” (Spirit of Law) กล่าวคือ เขาได้เสนอให้มีการแบ่งแยกอ านาจ
ปกครอง โดยอ านาจดังกล่าวออกเป็น 3 ส่วน คือ อ านาจนิติบัญญัติ อ านาจบริหาร และอ านาจ
ตุลาการโดยให้อ านาจทั้งสามสามารถถ่วงดุลและตรวจสอบกันเองได้ ซึ่งถือเป็นการจ ากัดอ านาจ
รัฐมิให้ตกอยู่กับบุคคลคนเดียว ระบบการแบ่งแยกอ านาจของสถาบันทั้ง 3 นี้ จะก่อให้เกิดดุลย
ภาพทางสังคมเป็นหลักประกันในการก่อให้เกิดเสรีภาพของประชาชนได้ นับเป็นหลักการที่ส าคัญ
ั
ประการหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยในปจจุบัน นอกจากนี้ มองเตสกิเออ ยังสนับสนุนให้มีการ
ปกครองในรูปแบบที่มีรัฐธรรมนูญอีกด้วย
ั
ในช่วงศตวรรษที่ 18 ลัทธิปจเจกชนนิยมและเสรีนิยมได้แพร่หลายเข้าไปในหมู่นัก
เศรษฐศาสตร์เป็นเหตุให้เกิดลัทธิเสรีนิยมทางเศรษฐกิจขึ้นประกอบกับปลายศตตวรรษที่ 18 ถึง
กลางศตวรรษ์ 19 ได้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้นในยุโรปมีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ
ั
เกิดขึ้นมากมาย ในการผลิตสินค้าถือว่ามนุษย์เป็นเพียงแรงงานหรือปจจัยที่ใช้ในการผลิตเท่านั้น
ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ถูกละเลย สภาพชีวิตของคนในโรงงานถูกเอารัดเอาเปรียบ มีการกดขี่
แรงงานผู้หญิงและเด็ก สภาพแวดล้อมในโรงงานเลวร้ายมาก สลัมในเขตเมืองและในเขต
อุตสาหกรรมเกิดขึ้นมากมาย คาร์ล มาร์ก ปรัชญาเมธีชาวเยอรมันได้ถือก าเนิดขึ้นในยุคนี้
4. คาร์ล มาร์กซ์ ( Carl Marx ) คริสต์ศักราชที่ 1818-1883
คาร์ล มาร์กซ์ ปรัชญาเมธีชาวเยอรมัน ได้เสนอแนวความคิดแบบสังคมนิยมไว้ในค า
ประกาศลัทธิคอมมิวนิสต์ ( The Communist Manifesto ) ความว่า “เนื่องจากความจ าเป็นในทาง
เศรษฐกิจ คือ การผลิต ท าให้มนุษย์ต้องมาอยู่ร่วมกัน และมีความสัมพันธ์ต่อกันซึ่งจะช่วย
เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้เข้ากับความต้องการของมนุษย์เอง การที่มนุษย์จะพัฒนาสังคมได้
อย่างสมบูรณ์ก็ด้วยการมีสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างมีเหตุผล กล่าวคือ เป็นความร่วมมือของคนใน
สังคมแบบสังคมนิยมที่ไร้ชนชั้น”
ั
มาร์กซ์ปฏิเสธแนวความคิดแบบปจเจกชนนิยม ซึ่งเป็นหลักการส าคัญของลัทธิเสรีนิยม
ั
ประชาธิปไตย เขาให้ความส าคัญต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนบุคคล โดยมองว่าปจเจกชนถือเป็น
เพียงหน่วยย่อยของสังคม มีสิทธิต่างๆได้โดยผ่านการประสานประโยชน์ของชุมชนในสังคม
ั
สังคมจะรับประกันความเสมอภาคของผู้ที่อยู่ในชุมชนนั้นสังคมคอมมิวนิสต์จึงเป็นสังคมที่ปจเจก
- 33 -