Page 711 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 711

ความคิดเห็นต่อข้อกฏหมาย

                                 ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกพบทรรศะในทิศทางเดียวกันว่า มาตรา 32 ให้

                         อ านาจในการเรียกบุคคล/นิติบุคคลอยู่แล้ว จึงไม่จ าเป็นต้องท าเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่า

                           ั
                         ปจจุบันการท างานของกรรมการสิทธิไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากว่าติดระบบข้าราชการ จึง
                         ท าให้ไม่ได้รับความสะดวกหลายอย่างในกระบวนการท างาน การใช้งบประมาณ

                                 ดังนั้น 1) กรรมการสิทธิควรจะต้องท าให้ ส านักเลขาธิการแยกออกจากส่วน
                         ราชการ และมีกฎระเบียบของตนเอง ซึ่งจะท าให้ง่ายขึ้น เช่น ค่าตอบแทนผู้เชี่ยวชาญ ใน

                         เรื่องการเดินทางของผู้เชี่ยวชาญ การดูแลพยาน คุ้มครองพยาน หรือแม้กระทั่งการไป

                                                                              ั
                         ตรวจสอบค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งปจจุบันนี้มันยากมากเพราะว่า
                         มันติดที่ระเบียบ ต้องไปประชุมอนุกรรมการ ดังนั้น ค่าเบี้ยงเลี้ยง ค่าเดินทางก็ล าบาก ซึ่ง

                                ั
                         นี้เป็นปญหา
                                                                                                ั
                                 2) ควรจะต้องมีการฝึกเจ้าหน้าที่ให้ท าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงาน เพราะว่าปจจุบันนี้

                         การตรวจสอบก็ดี การด าเนินการต่างๆ ก็ดี ต้องอาศัยอนุกรรมการเป็นหลัก เพราะว่า
                         เจ้าหน้าที่ยังไม่มีคุณภาพ ยังไม่ได้รับการฝึกมาอย่างเพียงพอ ดังนั้น การตรวจสอบ

                         ข้อเท็จจริงในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มันก็ไปได้ช้ามาก



                          4)  เพื่อเติมเรื่องการคุ้มครองพยาน





























                                                          - 592 -
   706   707   708   709   710   711   712   713   714   715   716