Page 707 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 707
ความคิดเห็นต่อข้อกฎหมาย
นักวิชาการด้านกฎหมายท่านหนึ่งให้ทรรศนะว่า อายุความ ถ้าไม่ได้เขียนไว้ใน
กฎหมายเฉพาะ ก็อาจใช้วิธีปฏิบัติราชการการปกครอง ก็คือก าหนดระยะเวลา เช่น 30
วัน ถ้าก าหนดไว้จะเป็นการบังคับการท างานของพนักงานหรือกรรมการสิทธิว่าควรจะท า
ให้เสร็จภายในระยะเวลาเท่าใด
ผู้ให้สัมภาษณ์อีกท่านหนึ่งให้ทรรศนะเพิ่มเติมว่า จริงๆ แล้ว แม้แต่ความผิดทาง
อาญาในหลายประเทศก็ไม่มีอายุความ ปล่อยว่างไว้ เพราะไม่ใช่จะเป็นเรื่องที่เราจะ
ลงโทษใคร กรรมการสิทธิไม่มีอ านาจลงโทษอยู่แล้ว แต่มีอ านาจในการตรวจสอบเพื่อให้มี
การปรับปรุงแก้ไข
8.6.3 กระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอม
ด้านกระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอม พบข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่
ควรพิจารณารวม 3 ข้อ ประกอบด้วย
1) ขาดกลไกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการด าเนินการไกล่เกลี่ย หมายถึง
ระเบียบดังกล่าว ยังไม่มีความชัดเจน และไม่ได้ให้ความส าคัญกับการสร้างกลไกที่
มีความเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะ แต่มอบให้คณะอนุกรรมการทุกคณะสามารถ
ด าเนินการไกล่เกลี่ยได้
ความคิดเห็นต่อข้อกฎหมาย
ผู้ให้สัมภาษณ์เห็นด้วยกับประเด็นนี้ โดยให้ทรรศนะว่า ควรมีผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจ
่
เรื่องการไกล่เกลี่ย เพราะว่าการไกล่เกลี่ยเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่จะท าให้สองฝายสามารถ
หาข้อยุติร่วมกันได้ในหลายเรื่องที่ไม่ซับซ้อนมาก แต่ว่าจ าเป็นต้องใช้ผู้ ที่มีทักษะ มีองค์
ความรู้เพียงพอที่จะท าเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาเข้าใจว่ากรรมการสิทธิยังไม่สามารถพัฒนา
เรื่องนี้ขึ้นมา ยังใช้อนุกรรมการเป็นตัวไกล่เกลี่ยโดยตรง
ั
อย่างไรก็ตามต้องมีหน่วยที่ท าหน้าที่เรื่องนี้ ในปจจุบันจะมีความยุติธรรมเชิง
สมานฉันท์เข้ามา มีเรื่องเหล่านี้เข้ามาช่วยให้มากขึ้นไปยุติความขัดแย้ง ในการลดหรือ
บรรเทาความขัดแย้ง ที่ใช้กันคือ กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
สอดคล้องกับความคิดเห็นของอีกท่านหนึ่ง ที่ว่า Expertise ความเชี่ยวชาญเป็น
เรื่องส าคัญ ทุกเรื่องต้องการ expertise แม้กระทั่งเรื่องการตรวจสอบ ซึ่งกรรมการสิทธิไม่
- 588 -
