Page 694 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 694
2. ควรมีระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน เกี่ยวกับการบังคับใช้อ านาจตามกฎหมายของ
กสม. ตามกรอบเวลา เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และเป็นมาตรฐาน
เดียวกัน
8.4.4 มาตรฐานการท างานของคณะอนุกรรมการที่แตกต่างกัน
ผลการศึกษาวิจัยพบว่ามาตรฐานการท างานที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อวิธีคิด การ
ท างานที่แตกต่างกัน ท าให้ท างานยาก และต้องปรับตัวให้เข้ากับแต่ละคณะ โดย
ั
ผลการวิจัยเชิงส ารวจพบว่าปญหาดังกล่าวอยู่ในระดับ “มาก” ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.90
นอกจากนี้ข้อมูลจากการสนทนากลุ่มยังพบข้อจ ากัดเกี่ยวกับคุณภาพของ
คณะอนุกรรมการบางด้านเพิ่มเติมอีกด้วย ดังรายละเอียด
ั
อนุกรรมการในปจจุบัน บางคนไม่มีความรู้ ไม่มีความเชี่ยวชาญ แต่ได้รับการ
คัดเลือกมาด้วยระบบพวกพ้อง
อนุกรรมการบางคนไม่ท างาน มาประชุมเอาเบี้ยประชุมเฉยๆ
อนุกรรมการบางคน เอาประเด็นที่ตัวเองสนใจมาฝากร้อง หรือเอางานตัวเอง
มาให้ กสม. ด าเนินการแทน
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากความคิดเห็นบางส่วนแสดงให้เห็นทรรศนะที่แตกต่างกัน
เกี่ยวกับคุณภาพ และความทุ่มเทในการท างาน ดังรายละเอียด
อนุกรรมการ มีภารกิจหลักมาให้ความเห็น มองว่าส่วนใหญ่เสียสละ
อนุกรรมการบางคนช่วยงานอย่างเต็มที่ปรึกษาได้ มีความเชี่ยวชาญ
แนวคิดการแก้ไขปัญหา
ผลการศึกษาวิจัย มีการน าเสนอถึงข้อเสนอแนะต่อแนวทางปฏิบัติ เพื่อแก้ไข
ั
ลดทอนปญหาดังกล่าวหลายประการ ดังรายละเอียด
1. ควรมีระเบียบปฏิบัติงานระหว่างอนุกรรมการกับเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน เพื่อเป็น
แนวทางให้อนุกรรมการในชุดถัดๆไป ปฏิบัติงานไปในทิศทางเดียวกัน เช่น
ในการประชุมคณะอนุกรรมการ ควรมีประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อเดือน และใน
แต่ละครั้งควรมีประเด็นพิจารณาประมาณ 2 – 4 เรื่อง
2. ควรมีการให้อ านาจหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องราวไปก่อน โดยที่ไม่ต้องรอ
มติจากคณะอนุกรรมการ เพื่อให้การท างานเป็นไปได้อย่างสะดวกขึ้น
- 575 -

