Page 693 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 693
ั
ด าเนินการเอง ซึ่งผลการวิจัยเชิงส ารวจ พบว่าปญหาดังกล่าวอยู่ในระดับ “ปานกลาง”
ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.98
แนวคิดการแก้ไขปัญหา
ั
ผลการศึกษาวิจัย มีการน าเสนอถึงแนวทางปฏิบัติ เพื่อแก้ไข ลดทอนปญหา
ดังกล่าวหลายประการ ดังรายละเอียด
1. มีการจัดฝึกอบรมพร้อมทั้งจัดท าคู่มือในการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งเก่า
และใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมและสามารถท างานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
2. การจัดสรรบุคลากรให้เหมาะสมกับต าแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบ และจัดสรร
่
บุคลากรในแต่ละฝายให้เพียงพอกับปริมาณงานในแต่ละอนุกรรมการ
8.4.3 ความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ
พบว่า ความร่วมมือที่ได้รับ บางครั้งก็ได้ไม่เต็มที่ ล่าช้า หรือได้ข้อมูลไม่ตรง
ั
ตามที่ต้องการ ซึ่งผลการวิจัยเชิงส ารวจพบว่าปญหาดังกล่าวอยู่ในระดับ “ปานกลาง”
ั
ค่าเฉลี่ย 3.47 นอกจากนี้ผลการศึกษาวิจัยด้วยวิธีสนทนากลุ่มก็พบข้อมูลปญหาที่
สอดคล้องกันว่า
บางหน่วยงานไม่เชื่อ ไม่ยอมรับ กสม. เลยส่งตัวแทนมาร่วม
ไม่ใช้เครื่องมือที่มี (กฎหมาย) เนื่องจากการตัดสินใจที่จะใช้กฎหมายนั้นต้อง
ผ่านมติจากกรรมการทั้ง 7 ท่าน
ผู้ร้อง พยาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่กล้าให้ข้อมูล เพราะกลัวเกิด
ั
ปญหา เนื่องจากไม่มีระบบการคุ้มครองพยาน
บางทีเชิญมาไกล เขาก็ไม่อยากมา เลยใช้วิธีส่งเจ้าหน้าที่ลงไปหาแทน
แนวคิดการแก้ไขปัญหา
ั
ผลการศึกษาวิจัย มีการน าเสนอถึงแนวทางปฏิบัติ เพื่อแก้ไข ลดทอนปญหา
ดังกล่าวหลายประการ ดังรายละเอียด
1. สร้างความร่วมมือเครือข่ายที่อยู่ในพื้นที่ เช่น เจ้าหน้าที่ต ารวจ ส านักงาน
ยุติธรรมประจ าจังหวัด เพื่อช่วยในการสืบค้นข้อมูลรวมไปถึง การให้ความ
คุ้มครองพยานหรือผู้ร้องเรียนได้รับความปลอดภัยส าหรับแต่ละคดี
- 574 -

