Page 697 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 697
เป็นสิ่งส าคัญ โดยข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงคุณภาพรายงานผลการตรวจสอบจากผล
การศึกษาวิจัยประกอบด้วย
1. การจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ เพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถเจ้าหน้าที่
ตรวจสอบเป็นการเฉพาะ
2. จัดท าคู่มือประกอบการอบรมมอบให้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เกี่ยวข้อง และ
บังคับใช้เป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน
3. การสรรหาอนุกรรมการควรจะคัดเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือ
นักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อมาให้ค าแนะน าหรือความเห็นทางด้าน
กฎหมาย ให้คุณภาพของรายงานมีคุณภาพมากขึ้น
4. การเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาเป็นที่ปรึกษา หรือให้ค าแนะน าเฉพาะกรณี
8.5.2 ขอบเขตอ านาจหน้าที่ตามบทบัญญัติกฎหมาย
ผลการศึกษาวิจัยในขั้นตอนแรกประเด็นดังกล่าวยังถูกตั้งเป็นข้อสังเกตว่า
กฎหมายให้อ านาจเฉพาะกลไกตรวจสอบ แต่ไม่มีกลไกรับรองผลการตรวจสอบ และ
ผลักดันให้ข้อเสนอแนะถูกน าไปปฏิบัติ ซึ่งมีเพียงกลไกทางอ้อมผ่านทางนายก และ
รัฐสภา ท าให้ผู้ถูกร้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีข้อโต้แย้ง และไม่น าไปปฏิบัติตาม อย่างไร
ก็ตามข้อสังเกตดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง จากการศึกษาวิจัยใน
ขั้นตอนที่ 2 ด้วยเทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม โดยพบว่าบทบัญญัติ
ั
กฎหมายมีความเหมาะสมอยู่แล้ว แต่ปญหาหรือข้อจ ากัดส าคัญ เชื่อมโยงมาจาก
กระบวนการตรวจสอบและคุณภาพของรายงานผลการตรวจสอบ ดังรายละเอียด
ข้อกฎหมาย ถือว่าดีอยู่แล้ว สิ่งที่ควรปรับแก้ไขคือ การท ารายงานว่าไป
ตรวจสอบอะไร แล้วค้นพบอะไร แล้วสอดคล้องกับมาตรการอะไร แล้ว
พิจารณาต่อว่าละเมิดหรือไม่ละเมิด หากละเมิดก็หามาตรการมาแก้ไข ซึ่ง
อ านาจของ กสม. ทั่วโลก (ตามหลักสากล) เป็นแบบนี้
กฎหมายระบุไว้ว่า หากรายงานที่ส่งให้รัฐสภา และนายกรัฐมนตรี เพื่อบอก
ให้หน่วยงานแก้ไขปรับปรุงไม่ประสบผลส าเร็จ ก็สามารถเผยแพร่สู่สาธารณะ
ชนได้ตามช่องทางต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากยังไม่ได้รับความร่วมมืออีก
้
กสม. ก็สามารถท าการฟองร้องแทนได้
รายงานผลการตรวจสอบเป็นเพียงข้อเสนอแนะ ไม่มีข้อบังคับ/ไม่มีผลบังคับ
ใช้ตามกฎหมาย จึงไม่เห็นประโยชน์ที่จะให้ประชาชนรอคอยจนกว่าจะมี
- 578 -

