Page 689 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550

ประชาสัมพันธ์โดยผ่านทางโบรชัวร์ แต่ในโบรชัวร์จะบอกแค่ช่องทางการ

ร้องเรียนเท่านั้น ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดว่าการร้องเรียนจะต้องท าเช่นไรบ้าง

และ มีหลักเกณฑ์อะไรบ้างถึงจะครบองค์ประกอบ

8.3.2 การประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ร้องเรียน

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า บางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกลับไปยังผู้ร้องเรียน
ได้เนื่องจาก ผู้ร้องไม่ได้แจ้งเบอร์โทร เปลี่ยนแปลงที่อยู่ เบอร์โทร ท าให้ไม่สามารถ

ั
ติดตามข้อมูล เอกสาร หรือนัดหมายได้ ซึ่งปญหาดังกล่าว ผลการวิจัยเชิงส ารวจพบว่า
ั
ปญหาอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.14 อย่างไรก็ตามผลการศึกษาด้วยการ
ั
สนทนากลุ่มพบว่า ปญหาดังกล่าวมีจ านวนไม่มาก อีกทั้งยังมีแนวทางปฏิบัติก าหนดไว้
ชัดเจนอยู่แล้ว ดังรายละเอียด

 พบกรณีดังกล่าวไม่มาก ส่วนมากจะแจ้งชื่อ พร้อมเบอร์โทรกลับอยู่แล้ว

 หากไม่มีเบอร์โทรก็จะท าหนังสือออกไปตามที่ให้ไว้ หากเกิน 7 วัน แล้วยัง

ติดต่อไม่ได้ ก็ถือว่าไม่ประสงค์ร้องเรียน

แนวคิดการแก้ไขปัญหา

ั
ผลการศึกษาวิจัย มีการน าเสนอถึงแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปญหา
ดังกล่าวไว้ 2 ประการ ดังรายละเอียด
ั
1. ควรมีการประชาสัมพันธ์ถึงรายละเอียดที่ต้องใส่ในค าร้องเพื่อลดปญหาใน
การติดต่อประสานงานกับผู้ร้องเรียน

2. เจ้าหน้าที่ผู้รับค าร้องได้ท าการติดต่อกลับไปยังผู้ร้องเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการ

ได้รับค าร้องแล้ว ควรมีการแจ้งให้ผู้ร้องทราบด้วยว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง

ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ผู้ร้องจะต้องแจ้งให้ทางส านักงานทราบด้วยเพื่อ

ความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ในครั้งต่อๆ ไป

8.3.3 การรวบรวม บันทึกข้อมูล (ระบบฐานข้อมูลการร้องเรียน)

พบว่า ตามระบบการท างานแล้วมีการบันทึกข้อมูลเบื้องต้นในการบวนการรับ

เรื่อง แต่เมื่อส่งเรื่องต่อให้กับที่ประชุม กสม. เพื่อคัดกรองและส่งต่อไปยัง
คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง กลับไม่มีการบันทึกต่อ ซึ่งผลการวิจัยเชิงส ารวจพบว่า

ั
ปญหาดังกล่าวอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ค่าเฉลี่ย 3.78 โดยเหตุผลประการส าคัญคือ ระบบ

- 570 -