Page 695 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 695
8.4.5 กลไกควบคุม เร่งรัดเรื่องเวลา
เนื่องจากการที่ไม่มีกลไกควบคุม ท าให้การท างานไม่มีกรอบเวลาที่เหมาะสมกับ
ั
ในแต่ละขั้นตอน ซึ่งปญหานี้ผลจากการวิจัยเชิงส ารวจพบอยู่ในระดับ “ปานกลาง”
ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.90 อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่มพบข้อมูลเพิ่มเติมที่
น่าสนใจว่า
จริงๆ มีเกณฑ์ แต่ไม่เคร่งครัด
ปริมาณงานเยอะ ไม่สอดคล้องกับจ านวนคน
่
บางกรณี ไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ได้ อาทิ การตรวจพื้นที่ปา
แนวคิดการแก้ไขปัญหา
ผลการศึกษาวิจัย มีการน าเสนอถึงข้อเสนอแนะต่อแนวทางปฏิบัติ เพื่อแก้ไข
ั
ลดทอนปญหาดังกล่าวหลายประการ ดังรายละเอียด
1. เพื่อความเป็นมาตรฐาน เจ้าหน้าที่ควรบริหารจัดการให้ทันตามกรอบเวลาที่
ก าหนดไว้ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
2. ต้องมีการจัดสรรเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับปริมาณงาน และกระจายงานให้กับ
เจ้าหน้าที่อย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถท างานได้ตามกรอบเวลา
3. กสม.จะต้องน าวิธีพิเศษ หรือ Fast Track มาใช้ในกระบวนการตรวจสอบ ให้
เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยในการด าเนินงาน อาจจะต้องมีระบบคัด
กรองเรื่องเร่งด่วนกับไม่เร่งด่วน และจะต้องก าหนดกรอบให้ชัดเจนว่า ระดับ
ใดจึงเรียกว่า “เร่งด่วน หรือ ฉุกเฉิน” ระดับใดให้ไปตามกระบวนการปกติ ซึ่ง
ั
ในปจจุบัน ก็มีการใช้ช่องทางนี้อยู่บ้าง แต่ยังไม่มีการก าหนดเกณฑ์ และ
กรอบของเรื่องเร่งด่วนให้ชัดเจน เรื่องเร่งด่วนส่วนใหญ่ จึงถูกมองมองว่าเป็น
“ค าร้องที่มีเส้น”
4. ควรมีการบังคับจากตัวกฎหมายในการระบุระยะเวลาที่ชัดเจนในการที่จะให้
ข้อมูลที่ต้องการจากบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5. ควรมีการลดขั้นตอนที่ต้องมีการรอขอมติกับองค์คณะกรรมการชุดใหญ่
เพื่อให้การด าเนินงานเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น
6. กระจายอ านาจไปสู่เจ้าหน้าที่ กสม. ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องสามารถมีอ านาจ
ตัดสินใจได้ว่า เรื่องใดที่รับพิจารณาหรือไม่รับพิจารณา แล้วในกรณีที่รับ
พิจารณาก็สามารถส่งต่อให้คณะอนุกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบต่อไปได้เลย
- 576 -

