Page 548 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 548
-การเปิดโอกาสให้ผู้ตรวจการสามารถตรวจสอบและน าเสนอเรื่องเอง
พบว่า เป็นการลัดขั้นตอนของกระบวนการตรวจสอบโดยให้องค์กรมีหน้าที่ในเรื่องการตรวจสอบ
และน าเสอนเรื่องเอง เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณา
(4.2) จุดอ่อน
-ช่องทางที่เปิดโอกาสให้บุคคล คณะบุคคล และชุมชน เข้าร้องเรียนมี
หลายช่องทางก็จริง แต่ในขณะเดียวกัน ผู้วิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ช่องทางใดบ้างที่จะสามารถท าให้
ค าร้องมีความครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น มีการลงลายมือชื่อ มีการให้เลข 13 หลัก มีเนื้อหาค าร้องที่
ชัดเจน มีการให้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่ครบถ้วนหรือไม่นั้น หากพิจารณาจากช่องทางแล้ว
อาจจะเป็นค าร้องที่สมบูรณ์ได้เพียงไม่กี่ช่องทาง
-การมีกระบวนการยื่นเรื่องร้องเรียนที่หลากหลายช่องทาง อาจท าให้
ข้อมูลมีจ านวนค่อนข้างมาก และซึ่งอาจจะรวมไปถึงผู้ที่ยื่นร้องเรียนที่ส าคัญมากๆท าให้ผู้ที่ยื่น
เรื่องส าคัญเกิดความล่าช้าในการพิจารณา อาจจะต้องมีการระบุว่าถ้าต้องการยื่นเรื่องที่ส าคัญ
มากๆควรมายื่นเรื่องด้วยตัวเอง เป็นต้น
5) กระบวนการพิจารณารับเรื่อง
(5.1) จุดแข็ง/จุดเด่น
-ผู้พิจารณาตัดสินรับเรื่อง หลักเกณฑ์กระบวนการพิจารณารับเรื่อง เงื่อน
เวลา พบว่า มีการก าหนดเรื่องร้องเรียนที่รับไว้พิจารณาในกรณีต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เช่นว่ากรณี
ไหนรับ กรณีไหนไม่รับ ซึ่งศึกษาได้จากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการ
่
แผ่นดิน พ.ศ.2552 มาตราที่ 13 นอกจากนี้การพิจารณารับ/ไม่รับเรื่องท าโดยฝายกลั่นกรอง ซึ่ง
ท าเป็นหมู่คณะ
-กรณีที่มีการปฏิเสธการรับเรื่อง พบว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น
เรื่องที่ไม่อยู่ในอ านาจหน้าที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยให้ผู้ร้องเรียนทราบ
โดยระบุเหตุผลที่ไม่รับเรื่องไว้พิจารณาและบางกรณีอาจส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ
ด าเนินการตามควรแก่กรณี
- 442 -

