Page 489 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 489

ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พยายามแก้ไขข้อจ ากัดดังกล่าว

                  โดยมีหนังสือเรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐมาให้ถ้อยค า หรือส่งวัตถุ เอกสารหรือพยานหลักฐาน ในฐานะ

                  บุคคลตามมาตรา 32 (2) ด้วยการระบุชื่อของบุคคลนั้นแทนต าแหน่งทางราชการ เพื่อให้สามารถ

                  ใช้บทลงโทษกับผู้ที่ไม่มาให้ถ้อยค า หรือไม่ส่งวัตถุ เอกสารหรือพยานหลักฐาน ตามมาตรา 34 ได้
                  แต่ในทางปฏิบัติ  การที่จะบังคับตามบทลงโทษแก่ผู้ใด  จะต้องด าเนินคดีอาญาแก่บุคคลนั้น  ซึ่ง

                          ั
                                                       ้
                  มักจะมีปญหาในการที่พนักงานอัยการจะฟองเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่
                  ปฏิบัติตามมาตรา 32 (1) มักจะมีข้ออ้างในทางราชการได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะการด าเนินการตาม

                  บทก าหนดโทษดังกล่าวต่อ ผู้ด ารงต าแหน่งระดับสูง รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีก็ยิ่งด าเนินการ

                  ได้ยากในการด าเนินงานที่ผ่านมา  ปรากฏว่า  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติยังมิได้

                  ด าเนินการเพื่อให้มีการบังคับใช้บทลงโทษตามมาตรา  34  ต่อบุคคลที่ปฏิเสธการมาให้ถ้อยค า

                  หรือส่งวัตถุ  เอกสารหรือพยานหลักฐาน  ตามมาตรา  32  แต่ด าเนินการในลักษณะการขอความ

                  ร่วมมือจากบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  จึงยังไม่มีแนวทางปฏิบัติในการบังคับใช้มาตรา 34

                  ท าให้ในบางกรณีผู้เกี่ยวข้องบ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธที่จะมาให้ถ้อยค า  หรือส่งวัตถุ  เอกสารหรือ
                  พยานหลักฐาน  และมีกรณีร้องเรียนหลายเรื่องที่หน่วยงานของรัฐที่ถูกร้องเรียนมอบหมายให้

                  เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอ านาจตัดสินใจมาให้ถ้อยค า  ท าให้ได้ข้อมูล  ไม่ครบถ้วน  และไม่สามารถ

                                              ั
                  ด าเนินการไกล่เกลี่ยเพื่อแก้ไขปญหาได้ อันส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


                                 8) กระบวนการสรุปเสนอมาตรการแก้ไข

                                      (8.1) จุดแข็ง/จุดเด่น

                                        -ภายหลังเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นจะมีการจัดท ารายงานสรุปเพื่อ
                                   ั
                  น าไปสู่การแก้ไขปญหา โดยในรายงานการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างน้อยต้องมี

                  รายละเอียด ดังนี้  1) ชื่อของผู้ร้องหรือผู้ซึ่งถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและผู้ถูกกล่าวหา  2) เหตุแห่ง
                  การละเมิดสิทธิมนุษยชน  3) รายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับพฤติการณ์แห่งการละเมิดสิทธิ

                                                                                                   ั
                  มนุษยชน 4) ความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลที่มีความเห็นดังกล่าว 5) มาตรการในการแก้ไขปญหา
                  การละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งต้องก าหนดโดยชัดแจ้งว่าบุคคลหรือนิติบุคคลหรือหน่วยงานใดมี

                  หน้าที่ต้องปฏิบัติในเรื่องใดและด้วยวิธีการอย่างไร และ 6) ระยะเวลาในการด าเนินการตามแนว

                              ั
                  ทางการแก้ปญหานั้น







                                                          - 383 -
   484   485   486   487   488   489   490   491   492   493   494