Page 494 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 494
เมื่อพิจารณาบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ โดยมิได้ระบุ
ขอบเขตไว้อย่างชัดแจ้ง และพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542
มาตรา 3 ที่บัญญัติให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์รวมอยู่ในความหมายของสิทธิมนุษยชนด้วย ท าให้
เห็นว่า เรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 น่าจะมีความหมายกว้างกว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตาม
สนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม
9) กระบวนการผลักดันมาตรการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้
บรรลุผล
(9.1) จุดแข็ง/จุดเด่น
ั
-หลังจากมีข้อสรุปแนวทางการแก้ปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว
ั
กสม.มีบทบาทในการผลักดันการแก้ปญหาโดยการเสนอความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลเป็น
ั
มาตรการในการแก้ไขปญหาที่ระบุถึงบุคคลหรือนิติบุคคลหรือหน่วยงานใดมีหน้าที่ต้องปฏิบัติใน
เรื่องใดและด้วยวิธีการอย่างไร ภายในระยะเวลาที่ก าหนดได้
-รัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ก าหนดอ านาจหน้าที่ของกสม.เพิ่มขึ้น (จาก
ั
รัฐธรรมนูญปี 2540) หลายประการ จึงมีทางเลือกในการผลักดันการแก้ปญหาเพิ่มมากขึ้น
กล่าวคือให้กสม.สามารถเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญในกรณีที่เห็นชอบ
ั
ตามที่มีผู้ร้องเรียนว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปญหาเกี่ยวกับ
ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองในกรณีตามที่มีผู้
ั
ร้องเรียนว่า กฎ ค าสั่ง หรือการกระท าใดในทางปกครองกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปญหา
เกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยไม่ต้องเสนอผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินเช่นที่
้
ผ่านมา รวมทั้งฟองคดีต่อศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหายได้ เมื่อได้รับการร้องขอจากผู้เสียหาย และ
ั
เป็นกรณีที่เห็นสมควรเพื่อแก้ไขปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นส่วนรวม
ั
-หากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติตามแนวทางการแก้ปญหาที่กสม.
เสนอ กสม.ก็สามารถเสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาสั่งการได้
-หากรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อสั่งการให้มีการด าเนินการตาม
ั
มาตรการแก้ไขปญหาแล้วนายกรัฐมนตรีไม่สั่งการให้ด าเนินการตามมาตรการดังกล่าว ก็ให้กสม.
รายงานต่อรัฐสภาเพื่อด าเนินการต่อไป
- 388 -

