Page 492 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 492
ั
-ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายในการก าหนดมาตรการในการแก้ไขปญหา
ั
การละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่จะน ามาใช้เป็นข้อสรุปในการแก้ไขปญหา ที่จะเป็นข้ออ้างให้น ามา
่
ปฏิบัติโดยฝายต่างๆ ได้
- ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของชนชาว
ไทย ได้ก าหนดเนื้อหาเป็นหลักการรับรองและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนไว้ ส่วนที่
เป็นรายละเอียดซึ่งไม่สามารถบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญจะก าหนดให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ
ซึ่งจะต้องตราขึ้นรองรับรัฐธรรมนูญในภายหลัง ความว่า“ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ” หรือ “ให้
เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ” แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่มีบทบัญญัติที่ก าหนดเวลาให้รัฐสภา
ต้องตรากฎหมายเพื่อก าหนดรายละเอียดดังกล่าว ท าให้ไม่มีการตรากฎหมายดังกล่าว จึงเป็น
ั
ปญหาว่า ในขณะที่รัฐสภายังไม่ได้ตรากฎหมายก าหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดให้เป็นไปตามที่
รัฐธรรมนูญก าหนดไว้นั้น บุคคลจะอ้างสิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้หรือไม่
เพียงใด และในกรณีเช่นนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะเสนอมาตรการในการแก้ไข
ั
ปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยอ้างอิงอาศัยบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญโดยตรงได้หรือไม่
เพียงใด ซึ่งย่อมมีผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถอาศัยกฎหมายเป็นเหตุอ้าง ในการปฏิบัติ
ั
ตามมาตรการในการแก้ไขปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติได้
-มีข้อจ ากัดในการสรุปอ้างอิงสนธิสัญญาหรือกติการะหว่างประเทศ
ทางด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามตามมาตรา 3 แห่ง
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ “สิทธิมนุษยชน” หมาย
รวมถึง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการรับรอง
ตามสนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม สิทธิมนุษยชนตามสนธิสัญญาหรือ
กติการะหว่างประเทศฉบับต่างๆ ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม จึงอยู่ในขอบเขต
การตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่เมื่อพิจารณาระบบกฎหมายของ
ประเทศไทยซึ่งเป็นระบบทวินิยม (Dualism) สนธิสัญญา หรือกติการะหว่างประเทศที่ประเทศ
ไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม ไม่มีผลบังคับเป็นกฎหมายภายในได้โดยตรง หากไม่มีการ
่
น ามาบัญญัติเป็นกฎหมายโดยฝายนิติบัญญัติ ดังนั้น หลักสิทธิมนุษยชนตามสนธิสัญญาหรือ
กติการะหว่างประเทศที่ประเทศไทย มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม จึงผูกพันประเทศไทยตาม
กฎหมายระหว่างประเทศ แต่ไม่ผูกพันหรือสามารถใช้บังคับกับหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่
ของรัฐได้โดยตรง ดังนั้น หากไม่มีการน าข้อก าหนดตามสนธิสัญญานั้นมาบัญญัติเป็นกฎหมาย
ภายในย่อมไม่มีสภาพบังคับกับประชาชนในกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
- 386 -

