Page 488 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 488

เห็นว่า  การสอบถามข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียน  มิได้เป็นการให้โอกาสในการเสนอ

                  พยานหลักฐาน และไม่ได้ให้ความสนใจในกระบวนการพิจารณาตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติ การที่ไม่มีการก าหนดมาตรการด าเนินการส าหรับผู้ไม่มาให้ถ้อยค า ไม่ส่งวัตถุ

                  หรือเอกสาร อย่างเท่าเทียมกันทั้งบุคคลในภาครัฐและเอกชน จึงย่อมมีผลให้หลักการดังกล่าวไม่
                  ปรากฏผล ในการคุ้มครองสิทธิของคู่กรณีหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามความเป็นจริง

                                        -ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนที่จ าเป็นต้องเชิญ

                                                                         ่
                  บุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝาย หรือ กรณีการหารือแนวทาง
                              ั
                  ปฏิบัติและปญหากฎหมาย ตลอดจนนโยบายต่างๆ ของรัฐ หน่วยงานของรัฐมักจะส่งผู้แทนเข้า
                                                                                                 ั
                  มาร่วมโดยที่ไม่อยู่ในฐานะที่สามารถให้ข้อคิดเห็นเพื่อน าไปสู่ทางออกของการแก้ไขปญหาที่
                  เกิดขึ้นทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติการ

                                            ั
                                        -มีปญหาข้อจ ากัดเกี่ยวกับการด าเนินการต่อผู้ขัดขวางหรือไม่ให้ความ
                                           ั
                  ร่วมมือในกระบวนการรับฟงข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐาน ทั้งนี้ในการด าเนินการต่อผู้
                                                                ั
                  ขัดขวางหรือไม่ให้ความร่วมมือในกระบวนการรับฟงข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐานของ
                                                      ั
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีปญหาว่า  บทบัญญัติว่าด้วยการก าหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่
                  มาให้ถ้อยค า หรือไม่ส่งวัตถุ เอกสารหรือพยานหลักฐาน ไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ

                                        -บทลงโทษต่อการไม่ให้ความร่วมมือไม่มีผลบังคับกับส่วนราชการและ

                  หน่วยงานของรัฐ  หรือรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ตามมาตรา  34  แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ก าหนดบทลงโทษจ าคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่น

                  บาท  หรือทั้งจ าทั้งปรับต่อผู้ที่ไม่มาให้ถ้อยค า  หรือไม่ส่งวัตถุ  เอกสาร  หรือพยานหลักฐานที่ถูก

                  เรียกหรือถูกสั่งให้ส่งตามมาตรา 32 (2) แต่บทลงโทษดังกล่าวใช้บังคับได้กับบุคคล  นิติบุคคล
                  หรือหน่วยงานเอกชน ตามมาตรา 32 (2) เท่านั้น ไม่มีผลบังคับกับส่วนราชการและหน่วยงานของ

                  รัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 32 (1) ท าให้หน่วยงานของรัฐบ่ายเบี่ยงหรือหลีกเลี่ยง ไม่ให้ความ

                  ร่วมมือในส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ส่งผู้แทนมาให้ถ้อยค าต่อคณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติตามมาตรานี้จึงเป็นข้อจ ากัดอ านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                         ั
                  ในรับฟงข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐาน
                                        -มีข้อจ ากัดในการบังคับใช้บทลงโทษกับบุคคล นิติบุคคล หรือหน่วยงาน

                  เอกชน ท าให้ไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยในการบังคับใช้มาตรา  34  กับบุคคล  นิติบุคคล  หรือ

                  หน่วยงานเอกชนยังขาดกระบวนการเชื่อมโยงหรือช่องทางที่จะท าให้เกิดผลในทางปฏิบัติ
                                                                ้
                                                                                              ่
                  เนื่องจากไม่ได้ก าหนดกระบวนการเบื้องต้นในการฟองร้อง  เพื่อน าไปสู่การลงโทษผู้ฝาฝืน  เช่น
                                                     ้
                  การเสนอเรื่องให้พนักงานอัยการเป็นผู้ฟอง นอกจากนั้น ในกรณีการบังคับใช้บทลงโทษกับบุคคล


                                                          - 382 -
   483   484   485   486   487   488   489   490   491   492   493