Page 486 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 486
ตรวจสอบไว้ก่อน และบางกรณีมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปก่อนแล้วมาก าหนดประเด็นการ
พิจารณา โดยไม่ปรากฏว่ามีหลักเกณฑ์หรือแนวทางการพิจารณาในเบื้องต้นว่า กรณีที่จะ
ด าเนินการตรวจสอบลักษณะใดควรจะต้องมีการก าหนดประเด็นการตรวจสอบ อย่างไรเพื่อ
ั
ประโยชน์ในการรับฟงข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ในแต่ละประเด็นการ
ั
ตรวจสอบที่ก าหนดไว้ จึงท าให้เห็นว่า การรับฟงและพิสูจน์หลักฐานข้อเท็จจริงในการตรวจสอบ
การละเมิดสิทธิมนุษยชนยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อให้คณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ถือปฏิบัติ
อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น การก าหนดว่า หากกรณีใดมีความซับซ้อน หรือยุ่งยากควรมี
ั
การก าหนดประเด็นในการตรวจสอบไว้ก่อนแล้วด าเนินกระบวนการรับฟงข้อเท็จจริง และแสวงหา
พยานหลักฐานไปตามประเด็นนั้น
-ขาดมาตรฐานหรือเกณฑ์ในการพิจารณาถึงความเพียงพอของ
ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ในบางกรณีที่ผู้ถูกร้องหรือผู้เกี่ยวข้องไม่ให้ความร่วมมือในการชี้แจงข้อเท็จจริง
หรือส่งวัตถุ เอกสารหลักฐานตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเรียกให้ส่ง หรือส่งให้ไม่
เพียงพอ ซึ่งอาจมีผลต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้ร้องในกรณีนั้น
ั
-มีปญหาเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก โดยที่
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2542 มิได้มีบทบัญญัติในเรื่องการขอ
ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อขอให้มาให้ความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสอบการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ตามระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และ
วิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2545 ข้อ 20 ก าหนดว่า “คณะกรรมการ
อาจขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญมาให้ความเห็นเพื่อประกอบการตรวจสอบได้” ซึ่งการที่ไม่
มีบทบัญญัติของกฎหมายก าหนดไว้โดยตรงเช่นนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับเชิญจึงอาจปฏิเสธที่จะมา
เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็นต่อคณะอนุกรรมการที่ด าเนินการตรวจสอบ ซึ่งในบางกรณีมี
สาเหตุจากความเข้าใจที่ว่า การขอให้มาให้ความเห็นดังกล่าวเป็นกรณีเดียวกับการเรียกบุคคลที่
เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยค า ตามมาตรา 32 (2) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. 2542 และผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับเชิญอาจมีความเห็นว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
หรือไม่ประสงค์ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีที่คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติก าลังด าเนินการตรวจสอบ ในการด าเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่
ผ่านมาจึงมักเป็นการขอความช่วยเหลือจากผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญโดยการแต่งตั้งเป็น
อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่จ าเป็นต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ
ั่
เช่น คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน ้า ชายฝง แร่ และสิ่งแวดล้อม คณะอนุกรรมการสิทธิใน
่
การจัดการที่ดินและปา คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบกรณีการหลุดรอดและ
- 380 -

