Page 483 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 483

นั้นอาจมิใช่คู่กรณีตามค าร้องเรียน ซึ่งไม่อยู่ในขอบเขตของการไกล่เกลี่ยตามมาตรา 27

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติย่อมด าเนินการได้ตามหลักความร่วมมือ ความรับผิดชอบ
                                  ั
                                                                             ั
                  และตระหนักในปญหาร่วมกันของผู้เกี่ยวข้อง  อันเป็นการแก้ไขปญหาด้วยมาตรการทางสังคม
                  มิใช่ด้วยมาตรการบังคับทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามหากกรณีร้องเรียนมีความซับซ้อน การแก้ไข
                    ั
                  ปญหาโดยหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีข้อจ ากัดด้วยกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ อาจกระท าได้
                                                  ้
                  ยาก  หรือมีความล่าช้า  จนมีการฟองร้องต่อศาลในประเด็นเดียวกัน  ท าให้คณะกรรมการสิทธิ
                  มนุษยชนแห่งชาติต้องยุติการตรวจสอบกรณีนั้น ตามมาตรา 22

                                        -การที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นองค์กรตรวจสอบและ

                                                                                                   ั
                  เสนอมาตรการการแก้ไข ไม่มีอ านาจวินิจฉัยชี้ขาด หรือมีค าสั่งหรือค าบังคับให้มีการแก้ไขปญหา
                                                                                     ั
                  ที่มีการร้องเรียน  จึงเห็นว่า  การไกล่เกลี่ยเป็นมาตรการส าคัญที่จะยุติปญหาการละเมิดสิทธิ
                  มนุษยชน  ทั้งที่เป็นความขัดแย้งส่วนบุคคลและความขัดแย้งเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ  ซึ่ง

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรให้ความส าคัญและก าหนดกลไกและวิธีด าเนินการให้มี

                  ความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การไกล่เกลี่ยในกรณีความขัดแย้งด้านนโยบายสาธารณะ
                                                                   ั
                  ซึ่งมีความส าคัญในการแก้ไขความขัดแย้งในสังคมไทยปจจุบัน


                                 7) กระบวนการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง

                                      (7.1) จุดแข็ง/จุดเด่น

                                                              ่
                                        -กสม.มีการให้โอกาสทุกฝายได้ชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริง โดยให้ผู้ร้องหรือผู้
                  ที่เกี่ยวข้องและผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงรายละเอียด และเสนอพยานหลักฐานตามสมควรเพื่อพิสูจน์

                  ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระท าที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยผู้รับผิดชอบต้องจัดท าบันทึกสรุป

                  เบื้องต้นโดยมีการสรุปข้อเท็จจริง ประเด็นที่มีการร้องเรียนและแก้ข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิ

                  มนุษยชน รวมทั้งมีการเสนอความเห็นพร้อมด้วยเหตุผลต่อคณะกรรมการ
                                        -เปิดโอกาสให้คู่กรณีมีผู้ช่วยหรือที่ปรึกษาทางกฎหมาย กล่าวคือ คู่กรณี

                  มีสิทธิน าทนายความหรือที่ปรึกษาของตนเข้ามาในกระบวนการพิจารณาตรวจสอบได้ไม่เกินสอง

                  คนซึ่งต้องเป็นทนายความหรือที่ปรึกษาที่ได้แจ้งรายชื่อไว้กับส านักงานคณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติก่อนวันตรวจสอบครั้งแรก โดยทนายความและที่ปรึกษามีสิทธิตอบค าถามแทน

                                      ่
                  คู่กรณีหรือพยานของฝายตนได้ หากได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ
                                                                     ่
                                        -มีข้อบังคับที่เป็นบทลงโทษผู้ที่ฝาฝืนการตรวจสอบ โดยกรณีที่มีผู้ไม่มา
                  ให้ถ้อยค าหรือส่งวัตถุเอกสาร หรือพยานหลักฐานที่มี กสม.เรียกหรือสั่งให้ส่งมานั้น มีการก าหนด





                                                          - 377 -
   478   479   480   481   482   483   484   485   486   487   488