Page 480 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 480
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จะเห็นว่าไม่มีบทบัญญัติก าหนดลักษณะของค า
ร้องที่ไม่ให้รับไว้พิจารณาหรือให้ยุติการพิจารณา หรืออาจไม่รับพิจารณา หรืออาจยุติการ
พิจารณาในท านองเดียวกับกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศ
เกาหลีใต้ และระเบียบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศแอฟริกาใต้ว่าด้วย
กระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีบทบัญญัติก าหนดลักษณะของค าร้องที่
คณะกรรมการอาจไม่รับไว้พิจารณา หรืออาจยุติการพิจารณาไว้อย่างชัดเจน เช่น ค าร้องที่ใช้
ถ้อยค าไม่สุภาพ ค าร้องที่ใช้นามแฝง หรือไม่ระบุชื่อผู้ยื่นค าร้อง ค าร้องที่มีลักษณะเป็นการ
ก่อกวน ไม่มีสาระที่ควรแก่การพิจารณา ค าร้องที่ไม่แสดงหลักฐานอย่างเพียงพอที่จะท าให้
สามารถด าเนินการตรวจสอบต่อไปได้ ค าร้องกรณีที่ผู้ร้องได้รับการแก้ไขเยียวยาอย่างเหมาะสม
แล้ว หรือกรณีตามค าร้องควรได้รับการพิจารณาแก้ไขโดยองค์กรอื่นที่มีอ านาจหน้าที่โดยตรง ซึ่ง
ตามกฎหมายไทยอาจพิจารณาได้จากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการ
แผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. 2542 มาตรา 24 และมาตรา 25 ที่ก าหนดลักษณะของค าร้องที่ไม่ให้รับ
ไว้พิจารณาหรือให้ยุติการพิจารณา หรืออาจไม่รับพิจารณา หรืออาจยุติการพิจารณา เช่น เรื่องที่
เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล หรือการลงโทษทางวินัยของข้าราชการเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริต
หรือประพฤติมิชอบในวงราชการ เป็นต้น อีกทั้งตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการ
ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2545 ได้ก าหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะของค าร้อง
ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอาจยุติการพิจารณาเพียงกรณีเดียว ได้แก่ กรณีที่
เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกับผู้ร้องที่ร้องเรียนด้วยวาจาได้ตามที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้
ไว้กระบวนการพิจารณารับค าร้องจึงไม่มีความชัดเจนและน าไปสู่การยุติเรื่องในภายหลัง
6) กระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอม
(6.1) จุดแข็ง/จุดเด่น
-เปิดช่องทางให้คู่กรณีไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันได้ โดยระหว่างการ
พิจารณาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนถ้าคณะกรรมการเห็นว่าเรื่องดังกล่าวสามารถไกล่
เกลี่ยได้ ให้คณะกรรมการด าเนินการไกล่เกลี่ยภายใต้หลักเกณฑ์คือ 1) คู่กรณีมีความสมัครใจ
ั
ยินยอมที่จะตกลงประนีประนอมกันเพื่อแก้ไขปญหาสิทธิมนุษยชน 2) การตกลงประนีประนอม
อยู่ในกรอบของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และ 3) การตกลงประนีประนอมต้องจัดท าเป็นหนังสือ
-หากเรื่องที่ประนีประนอมกันนั้นปรากฏภายหลังว่า มีการปฏิบัติที่ไม่
เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว ให้ กสม.พิจารณาตรวจสอบตามอ านาจหน้าที่ต่อไปได้ (ตามมาตรา
27)
- 374 -

