Page 479 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 479

้
                  ที่มีการฟองร้องเป็นคดีอยู่ในศาล หรือที่ศาลพิพากษาหรือมีค าสั่งเด็ดขาดแล้ว ให้คณะกรรมการมี
                                                                                        ้
                  อ านาจตรวจสอบและเสนอมาตรการการแก้ไข” ซึ่งหมายความว่า เรื่องที่มีการฟองร้องเป็นคดีอยู่
                  ในศาล หรือที่ศาลพิพากษา หรือมีค าสั่งเด็ดขาดแล้ว ไม่อยู่ในอ านาจตรวจสอบของคณะกรรมการ
                                                                                                ั
                  สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อมิให้มีการพิจารณาซ ้าซ้อนกัน แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่า มีปญหาใน
                  การบังคับใช้และตีความมาตรา 22 เนื่องจากเรื่องที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

                                                           ้
                  แห่งชาติมีประเด็นที่แตกต่างจากเรื่องที่มีการฟองร้องเป็นคดีอยู่ในศาล และยังอาจอาศัยเป็นเหตุ
                  อ้างของผู้เกี่ยวข้อง ในการปฏิเสธการมาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐานต่อ

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                                          ั
                                        -ปญหาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการปฏิเสธไม่รับค าร้อง หลักการส าคัญที่ต้อง
                  พิจารณาในการเริ่มกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน  คือ  การมีหลักเกณฑ์ในการ

                                                                 ั
                  รับค าร้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ว่าเรื่องใดเป็นปญหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อยู่
                  ภายใต้อ านาจตรวจสอบของคณะกรรมการ  ซึ่งจากการศึกษาบทบัญญัติของพระราชบัญญัติ

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                  ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2545 และรายงาน

                  ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นว่า การ

                  รับค าร้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นไปอย่าง

                  กว้างขวาง ไม่มีหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการรับและการปฏิเสธไม่พิจารณาค าร้อง

                                        -ไม่มีการก าหนดอายุความในเรื่องที่มีการยื่นค าร้อง พระราชบัญญัติ

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  พ.ศ.  2542  ไม่มีบทบัญญัติก าหนดระยะเวลา  หรืออายุ

                  ความในการรับค าร้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  อันเป็นการ
                  เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนสามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

                  แห่งชาติได้โดยไม่มีข้อจ ากัดเรื่องเวลา ซึ่งเป็นไปตามหลักการอันเป็นมาตรฐานสากล ของสถาบัน

                  สิทธิมนุษยชนระดับชาติ ที่จะต้องเป็นสถาบันที่บุคคลและกลุ่มต่างๆ สามารถเข้าถึงกระบวนการ

                  พิจารณาคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้ง่ายแต่ในอีกแง่หนึ่ง  การที่ไม่มีบทบัญญัติดังกล่าว  ท าให้ไม่มี

                  ก าหนดระยะเวลา  ที่ชัดเจนแน่นอนในการรับค าร้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติ  และไม่อาจอาศัยอ านาจตามกฎหมาย  ในการปฏิเสธไม่รับค าร้องที่ผู้ร้องยื่น

                  หลังจากการกระท าที่เกิดขึ้นได้ล่วงพ้นระยะเวลามานาน  จนกระทั่งการแสวงหาข้อเท็จจริงและ

                  พยานหลักฐานต่างๆเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนกระท าได้ยาก

                                        -ไม่มีการก าหนดลักษณะของค าร้องที่ไม่ให้รับไว้พิจารณาหรือให้ยุติการ
                  พิจารณา  หรืออาจไม่รับพิจารณา  หรืออาจยุติการพิจารณา เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติ



                                                          - 373 -
   474   475   476   477   478   479   480   481   482   483   484