Page 478 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 478

้
                                        -การพิจารณารับเรื่องกรณีเปาหมายของค าร้องเป็นเอกชน มีความไม่
                  ชัดเจนว่า  “บุคคล” และ “หน่วยงาน”  ที่อยู่ภายใต้อ านาจตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติ  ครอบคลุมถึงบุคคลหรือหน่วยงานในภาคเอกชนด้วยหรือไม่  ท าให้เกิดกรณี

                  การโต้แย้ง คัดค้านอ านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในประเด็นว่าการกระท าหรือ
                  ละเลยการกระท าของบุคคลหรือนิติบุคคลในภาคเอกชนไม่ควรอยู่ภายใต้อ านาจตรวจสอบของ

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                                            ั
                                        -มีปญหาการตีความเกี่ยวกับ “สาระของค าร้อง”   หรือกรณีที่
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอ านาจรับไว้พิจารณาตรวจสอบ เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่มี

                  บทบัญญัติที่กล่าวถึงค าว่า  “สิทธิมนุษยชน”  และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไว้โดยตรง  แต่เมื่อ

                  พิจารณาหลักการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ว่าด้วยสิทธิและ

                  เสรีภาพของชนชาวไทย ท าให้เห็นว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” “สิทธิ” และ “เสรีภาพ” เป็นค าที่

                  รวมอยู่ในความหมายของสิทธิมนุษยชน  ซึ่งเป็นค าที่บุคคลทั่วไป  ไม่อาจเข้าใจตรงกันได้อย่าง

                  ชัดเจน แม้ว่ามาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จะ
                  ได้บัญญัติถึงนิยามของค าว่า  “สิทธิมนุษยชน”  ไว้  แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน

                  เกี่ยวกับความหมายของค าต่างๆ  เหล่านี้  จึงท าให้ขอบเขตของการตรวจสอบการละเมิดสิทธิ

                                                                                           ั
                  มนุษยชนโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ยังขาดความชัดเจน  และมีปญหาเกี่ยวกับ
                  กรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอ านาจรับไว้พิจารณาตรวจสอบอันเนื่องมาจาก

                  ความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ไม่ตรงกัน  ดังปรากฏว่ามีผู้ร้องเรียนขอให้คณะกรรมการสิทธิ

                  มนุษยชนแห่งชาติคุ้มครองสิทธิต่างๆ อันเป็นกรณี ข้อพิพาทเกี่ยวกับประโยชน์ของบุคคลในทาง

                  แพ่ง ซึ่งโดยหลักจะอยู่ในอ านาจของศาลยุติธรรม
                                            ั
                                        -มีปญหาข้อจ ากัดในการรับค าร้องไว้พิจารณา ในกรณีที่เป็นเรื่องคาบ
                               ้
                  เกี่ยวกับการฟองร้องคดีในศาล ถึงแม้ว่าเรื่องที่พิจารณาจะมีประเด็นที่แตกต่างไปจากเรื่องที่เป็น
                  คดีความในชั้นศาล แต่ก็เป็นสาเหตุท าให้เกิดความยุ่งยากในการตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องได้

                  ทั้งนี้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542

                  และระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบ

                  การละเมิดสิทธิมนุษยชนพ.ศ.  2545  รวมทั้งการด าเนินงานที่ผ่านมาของคณะกรรมการสิทธิ

                                                        ั
                  มนุษยชนแห่งชาติ  จะเห็นว่ามีประเด็นปญหาเกี่ยวกับข้อจ ากัดในการรับค าร้องไว้พิจารณาที่
                                ั
                  ส าคัญ ได้แก่ ปญหาเกี่ยวกับข้อจ ากัดอ านาจตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                  ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่บัญญัติว่า
                  “ในกรณีที่มีการกระท าหรือการละเลยการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและมิใช่เป็นเรื่อง



                                                          - 372 -
   473   474   475   476   477   478   479   480   481   482   483