Page 474 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 474

มนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน  พ.ศ.

                  2545  ไม่ได้ระบุถึงการเสนอค าร้องแทนในฐานะที่เป็นผู้เสียหายเป็นกลุ่ม เป็นการร้องเรียนเพื่อ

                  ประโยชน์สาธารณะ และเป็นการร้องเรียนเพื่อประโยชน์กับสมาชิกของสมาคมข้างต้น

                                        -มีข้อจ ากัดเรื่ององค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนที่มีสิทธิเสนอค าร้อง
                  ของการละเมิดสิทธิมนุษยชน ท าให้ไม่ครอบคลุมองค์กรบางลักษณะที่อาจมีส่วนร่วมเป็น

                  คุณประโยชน์ต่องานด้านสิทธิมนุษยชนได้ เนื่องจากตามกฎหมายไทย  การเสนอค าร้องโดย

                  องค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ ตามมาตรา 24 วรรคสอง

                  คือ 1)  ต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย 2)  ต้องมีการด าเนินกิจการเกี่ยวข้องโดยตรงกับการ

                  ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามที่คณะกรรมการก าหนด 3)  มิได้มีวัตถุประสงค์ในทาง

                  การเมืองหรือมุ่งค้าก าไรจากการด าเนินกิจการดังกล่าว ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวท าให้การน าเรื่อง

                  ร้องเรียนเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติโดยองค์การ

                  เอกชนด้านสิทธิมนุษยชนที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคลกระท าไม่ได้ ถึงแม้ว่าองค์กรเหล่านั้นจะมีศักยภาพ

                  ในการรับเรื่องร้องเรียนได้เท่าเทียมกับองค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนที่เป็นนิติบุคคลก็ตาม
                  นอกจากนี้การก าหนดคุณสมบัติขององค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนเพิ่มเติม  ตามระเบียบ

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการรับรององค์การเอกชนด้านสิทธิ

                  มนุษยชน พ.ศ. 2548 ข้อ 5 ไม่ได้ช่วยให้หลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นมากนัก เพราะคุณสมบัติ

                  เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการด าเนินกิจการที่ก าหนดไว้ตามข้อ 5 (1) และ (3) รวมถึงความเป็นนิติ

                  บุคคลได้ก าหนดไว้ตามมาตรา  24  วรรคสองอยู่แล้ว  อีกทั้งการก าหนดว่าจะต้องด าเนินกิจการ

                  ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสองปี และมีผลการด าเนินการเป็นที่ประจักษ์ก็ยิ่งเป็นการจ ากัด

                  ช่องทางขององค์กรต่างๆ ในการร้องเรียนขององค์การเอกชนตามมาตรานี้
                                        -การก าหนดเงื่อนไขคุณสมบัติขององค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน

                  ตามมาตรา  24  วรรคสอง  ท าให้ไม่สามารถส่งเสริมบทบาทขององค์การเอกชนให้ท าหน้าที่เป็น

                  เครือข่ายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการรับค าร้อง แทนการมีส านักงานสาขาใน

                  ภูมิภาคเพื่อรับค าร้องทั่วประเทศได้อย่างเพียงพอ

                                        -การยื่นค าร้องแทนโดยองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน อาจจะมี

                  ข้อจ ากัดที่มีโอกาสท าให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถูกร้องได้ กรณีที่เป็นการร้องโดยไม่มีข้อมูล

                  หรือหลักฐานข้อเท็จจริงที่เพียงพอ เนื่องจากมาตรา 24 ไม่ได้ก าหนดให้น าบทบัญญัติในเรื่องการ

                  แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ในการยื่นค าร้อง ตามมาตรา 23 มาใช้บังคับกับการร้องเรียนผ่านองค์การ

                  เอกชนด้านสิทธิมนุษยชน จึงอาจเป็นช่องทางให้การน าเรื่องร้องเรียนเข้าสู่กระบวนพิจารณาตาม
                                                                               ั
                  มาตรา 24  ในบางกรณีขาดรายละเอียดเกี่ยวกับค าร้อง  และเป็นปญหาว่า  กรณีที่ปรากฏแก่


                                                          - 368 -
   469   470   471   472   473   474   475   476   477   478   479