Page 467 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 467
่
-กสม.ถูกเพ่งเล็ง ตรวจสอบติดตามจากหลายฝายมากขึ้น ในฐานะที่เป็น
องค์กรอิสระที่มีอ านาจและมีบทบาทส าคัญตามรัฐธรรมนูญที่ก าหนดไว้ โดยเฉพาะในสถานการณ์
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอ านาจทางการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ และความขัดแย้งแตกต่างกันทาง
ความคิดของคนในสังคม ท าให้กสม. ถูกคาดหวังกดดันให้แสดงบทบาทตอบสนองความต้องการ
ของแต่ละกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มขั้วความคิดที่แตกต่างกัน
ั
-ที่ผ่านมามีปญหาความล่าช้าในการออกกฎหมายและปรับปรุงกฎหมาย
เพื่อรองรับการท างานตามรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงท าให้เกิดข้อจ ากัดเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่มีผลต่อ
ความสะดวกในการท างาน เนื่องจากพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.
2542 (ที่จัดท าขึ้นตามกรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540) มีหลักการและ
รายละเอียดในหลายประเด็นซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของพระราชบัญญัติฯ ที่ยังไม่สอดคล้องกับ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และสอดคล้องกับแนวทางการท างาน
้
ปกปองสิทธิมนุษยชน โดยมีประเด็นส าคัญ อาทิ หลักเกณฑ์ของบุคคลที่จะเป็นกรรมการสรรหา
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ว่าควรวางกรอบว่าจะต้องไม่เป็นผู้พิพากษาหรือตุลาการ
หรือไม่) แนวทางการสรรหาและการเลือกกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในกรณีที่กรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติพ้นจากต าแหน่งนอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระที่ยังไม่มีบทบัญญัติที่
ชัดเจน แนวทางการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่รู้หรือได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากกฎหมาย
เดิมมีเงื่อนไขที่เข้มงวดในการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกสม. ใน
การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแก่ประชาชนหรือในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน
ระหว่างกระบวนการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จึงมีความไม่ลงตัว
ั
เกี่ยวกับอ านาจหน้าที่ตามข้อกฎหมายในการท างาน ของกสม. ชุดปจจุบันเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้น
ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่จะต้องท างานภายใต้กฎหมายลูกคือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่จัดท าขึ้นตามกรอบ
รัฐธรรมนูญปี 2540
-ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน บทบาทหน้าที่
ของกสม. และองค์กรหน่วยงานในการดูแลสิทธิมนุษยชน
-การขับเคลื่อนการท างานยังไม่สามารถส่งผลสะเทือนต่อสังคมมาก
เท่าที่ควร
-ในอนาคตจะมีความเกี่ยวพันและความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับ
องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่งมีความจ าเป็นต้องมีการปรับปรุงบทบาทการ
ท างานและแก้ไขข้อจ ากัดต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางงานสิทธิมนุษยชนที่เป็นสากล อาทิ
- 361 -

