Page 50 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 50

มาตรา 58  ในปี พ.ศ. 2515  ได้ขยายให้การเดินสํารวจในมาตรานี้รวมถึงการเดินสํารวจออกหนังสือ
                                                                        ่
                                                                                                    ั
                       รับรองการทําประโยชน์ด้วย จึงได้มีกําหนดความเกี่ยวกับเขตปาไม้ถาวรขึ้นและใช้บังคับมาจนถึงปจจุบัน
                                               ั
                              นอกจากนี้  ยังมีปญหาความสับสนในการตีความกฎหมายของหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับ
                                                                                ่
                       สถานะทางกฎหมายของที่ดินซึ่งอยู่ในเขต  ส.ป.ก.  ที่รับมอบมาจากกรมปาไม้  รวมทั้งการตีความกฎหมาย
                                                                                    ่
                       ในเรื่องคําจํากัดความของ  คําว่า “ท้องที่ที่ทางราชการให้จําแนกให้เป็นเขตปาไม้ถาวร”  ตามมาตรา 58
                       แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน  ว่ามีความหมายแค่ไหนเพียงใดเนื่องจากความเห็นของส่วนราชการ
                                         ่
                       ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมปาไม้ กรมพัฒนาที่ดิน และกรมที่ดิน มีความเห็นขัดแย้งกัน
                                                                                        ่
                                   ั
                              3. ปญหาการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินในบริเวณพื้นที่คาบเกี่ยวกับเขตปาชายเลน ผลการศึกษา
                                                                            ่
                       พบว่า  มาตรการของรัฐที่ได้ออกมาโดย มุ่งหวังให้การบุกรุกที่ปาชายเลนลดน้อยลงหรือให้คงสภาพ
                         ่
                       แปาชายเลนไว้ให้ได้มากที่สุดนั้น จําเป็นจะต้องมีบทบัญญัติของกฎหมายรองรับมาตรการดังกล่าวด้วย
                                                                         ่
                                                                                     ่
                       จึงจะมีสภาพบังคับใช้ตามกฎหมายได้  เพราะการใช้อํานาจของฝายบริหารหรือฝายปกครองย่อมไม่สามารถ
                       ใช้บังคับกับประชาชนที่มีสิทธิในการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายได้
                                    ั
                              4.   ปญหาการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินในเขตที่มีพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามไว้เพื่อใช้ใน
                       ราชการทหาร ผลการศึกษา พบว่า มติคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติปี พ.ศ. 2517 มติคณะรัฐมนตรี
                                                                                          ั
                       เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 และมติของคณะกรรมการประสานการแก้ไขปญหาการบุกรุกที่ดิน
                                                                          ่
                       ของรัฐส่วนกลาง (กปร.  ส่วนกลาง)  ถือเป็นมาตรการของฝายบริหารในการควบคุมดูแลรักษาและ
                               ้
                                                                    ่
                                                                           ่
                       คุ้มครองปองกันที่ดินของรัฐมิให้ตกเป็นประโยชน์แก่ฝายหนึ่งฝายใดโดยเฉพาะ  และส่งผลให้การ
                           ั
                       แก้ปญหาเกี่ยวกับที่ดินในเขตพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ในราชการทหารไม่เป็นที่ยุติ
                              อย่างไรก็ตาม การเป็นที่ดินของรัฐใช่ว่าจะดํารงอยู่ตลอดไปหรือเปลี่ยนแปลงไม่ได้ รัฐอาจถอนสภาพ
                       จากการเป็นที่ดินอันเป็นสาธารณประโยชน์สมบัติของแผ่นดินให้เป็นที่ดินที่มีเอกชนหรือประชาชน
                       เป็นเจ้าของได้  ถ้าหากที่ดินเหล่านี้ในภายหลังราษฎรไม่ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปแล้ว  หรือรัฐหาที่ดินอื่น

                       ให้ราษฎรใช้ประโยชน์แทน เมื่อที่ดินหมดสภาพการเป็นสาธารณะ ตามมาตรา 8 วรรค 2 ประมวลกฎหมาย
                       ที่ดิน  ให้ถอนสภาพได้  โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกา  การถอนสภาพเช่นนี้  ประมวลกฎหมายที่ดิน
                       ไม่ได้บัญญัติว่าเมื่อถอนสภาพแล้วจะเป็นที่ดินประเภทอะไร  ดังนั้น  รัฐอาจให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า

                       ต่อไปก็ได้ถ้ามีสภาพเช่นนั้น หรือให้มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองไป โดยนําไปขึ้นทะเบียนเพื่อให้ทบวง
                       การเมืองใช้ประโยชน์ในราชการตามมาตรา 8 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน หรือให้บุคคลใดเข้าจับจอง
                                                                       ่
                       ใช้ประโยชน์ต่อไปก็ได้  เพราะในการปฏิบัติราชการของฝายปกครองนั้นต้องอาศัยฐานทางกฎหมาย
                       โดยเฉพาะเมื่อจะกระทําการกระทบเสรีภาพของประชาชน
                              ขณะเดียวกันก็มีการศึกษาวิจัยจํานวนมากที่ศึกษาค้นหาแนวทาง วิธีการและข้อเสนอเพื่อให้
                                           ่
                       เกิดการจัดการที่ดินและปาให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม บนฐานแนวคิดการจัดการอย่างมีส่วนร่วม
                       ของท้องถิ่น แนวคิดเรื่องธรรมาภิบาล รวมทั้งแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชน เช่น บทความเรื่องสิทธิใน
                       ที่ดินของชุมชน : โฉนดชุมชนและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดย อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ ที่ระบุว่า การให้
                                                                       ั
                       สิทธิชุมชนจัดการที่ดินเป็นทางออกอย่างหนึ่งในการแก้ไขปญหาสิทธิในที่ดินซึ่งจะต้องกําหนดขอบเขต
                       พื้นที่องค์ประกอบหรือผู้แทนชุมชนเงื่อนไขการใช้พื้นที่ไว้อย่างชัดเจน ส่วนกระบวนการในการบริหาร


                                                                                                      3‐21
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55