Page 49 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 49

ไม่พอต่อการทํามาหากิน  และระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ  ฉบับที่ 12 (พ.ศ.  2532)
                       ซึ่งได้ยกเลิกระเบียบที่เคยประกาศใช้มารวมทั้งสิ้น 3  ฉบับ  เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของ
                       กฎหมาย อันส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงหลักการที่สําคัญ ในการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินให้แก่บุคคล

                       ที่ครอบครองและทําประโยชน์ในที่ดิน ภายหลังจากวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและไม่มีใบจอง
                       ใบเหยียบยํ่า หรือหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามมาตรา 58 ทวิ
                       วรรคสอง (3) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทําให้เป็นการขยายโอกาสให้ผู้บุกรุกที่ดินของรัฐหรือผู้ที่เข้าครอบครอง

                       ทําประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิได้รับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมากยิ่งขึ้น
                              นอกจากนี้ยังพบว่า มีใบจอง (น.ส.2) เป็นจํานวนมากตกค้างไม่สามารถนําทําการเดินสํารวจ
                       ออกโฉนดที่ดินได้เนื่องจากมีเงื่อนไขว่าเมื่อได้รับใบจองแล้ว  ต้องเข้าทําประโยชน์ภายในหกเดือน

                       นับแต่วันได้รับใบจอง และทําประโยชน์ให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี การทําประโยชน์ให้แล้วเสร็จหมายถึง
                       การทําประโยชน์  ประมาณ 3  ใน 4  ส่วน  ตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ  พ.ศ.  2498
                                                                                    ั
                       ใบจองเป็นหนังสือแสดงการยอมให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว  จึงมีปญหาในกรณีที่จะโอนที่ดิน
                       ให้บุคคลอื่นในทางทะเบียนซึ่งจะกระทําได้เฉพาะในกรณีที่ได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
                       การทําประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวแล้วเท่านั้น  หากยังไม่ได้รับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าว  ก็ไม่มีทาง
                       โอนที่ดินนั้นให้บุคคลอื่นทางทะเบียนได้และเมื่อศึกษาระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ

                       ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2532)  โดยมีวัตถุประสงค์หลายประการแต่ประการสําคัญ ได้แก่ การแก้ไขเพื่อให้
                       สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย  เนื่องจากระเบียบเดิมมีการกําหนดที่เกินตัวบทโดยเฉพาะ
                       มาตรา 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน อันส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงหลักการที่สําคัญในกรณีการ

                       เดินสํารวจออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้แก่บุคคลที่ครอบครองและทําประโยชน์ในที่ดิน  ภายหลัง
                       จากวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและไม่มีใบจองฯ  ตามมาตรา58  ทวิ  วรรคสอง (3)  แห่ง
                       ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเดิมได้กําหนดให้เฉพาะบุคคลที่ครอบครองและทําประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อน

                       วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2512 เท่านั้น จึงจะมีสิทธินําพนักงานเจ้าหน้าที่เดินสํารวจออกโฉนดที่ดินหรือ
                       หนังสือรับรองการทําประโยชน์ได้ แต่ตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 มิได้มีการ
                       กําหนดระยะเวลาดังกล่าวไว้  แต่ประการใด  อันทําให้เป็นการขยายโอกาสให้ผู้บุกรุกที่ดินของรัฐหรือ

                       ผู้ที่เข้าครอบครองทําประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิได้รับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
                       มากยิ่งขึ้น
                                  ั
                              2. ปญหาการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในการเดินสํารวจ
                       ออกโฉนดที่ดินของจังหวัดขอนแก่น ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2550  เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธที่จะไม่เข้าดําเนินการ
                       ให้แก่ประชาชนที่มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ดําเนินการของสํานักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  เป็นเหตุให้
                                                ้
                       เจ้าของที่ดินจํานวน 51 ราย ฟองคดีต่อศาลปกครองขอนแก่น จากการศึกษา พบว่า มาตรา 58 แห่ง
                       ประมวลกฎหมายที่ดิน  ได้มีแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง  เดิมเป็นกรณีเดินสํารวจเฉพาะโฉนดที่ดินมิได้มี
                                                                                             ่
                                           ่
                       บทบัญญัติเกี่ยวกับเขตปาไม้ถาวรอย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากการดําเนินการเกี่ยวกับเขตปาไม้ถาวรได้เริ่ม
                       เมื่อปี พ.ศ. 2504 อันเป็นระยะเวลาภายหลังจากการประกาศใช้บทบัญญัตินี้แล้ว แต่เมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติม




                                                                                                      3‐20
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54