Page 406 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 406
4. รายงานผลการตรวจสอบที่ 237/2552 เรื่อง สิทธิในที่ดิน กรณีการกันพื้นที่ไว้ใช้ใน
ราชการทหารทับซ้อนพื้นที่ของประชาชน
กรณีร้องเรียนว่า ผู้ร้องและพวก ได้ครอบครองทําประโยชน์ในบริเวณที่พิพาทมาเป็นเวลานาน
บางส่วนมีหลักฐาน ส.ค.1 ต่อมามีการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตของหน่วยราชการต่าง ๆ
่
คือ เขตปาสงวนแห่งชาติ เขตทหารบก และเขตกรมธนารักษ์ โดยผู้ร้องไม่เคยรับรู้มาก่อน จึงไม่ได้คัดค้าน
และทําให้ผู้ร้อง ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิได้
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เอกสารของมณฑลทหารบกที่ 24 หนังสือที่ กห
0482.63.20/1622 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2546 ในส่วนของการสรุปข้อมูลการส่งคืนที่ดินของกองทัพบก
ให้กับกรมธนารักษ์ ระบุว่า ที่พิพาทดังกล่าว มีราษฎรครอบครองทําประโยชน์ ก่อนการจําแนกที่ดิน
ในปี 2505
“...เมื่อปี 2504 คณะกรรมการสํารวจจําแนกประเภทที่ดิน ได้เข้ามาสํารวจบริเวณอําเภอต่าง ๆ
่
ในเขตจังหวัดอุดรธานีก็ไม่ได้ทําการสํารวจว่ามีราษฎรเข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่ฝายทหาร
ขอสงวนอยู่ก่อนหรือไม่ จํานวนเท่าใด ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อกองทัพบกได้รับอนุญาตให้ใช้หรือ
ครอบครองพื้นที่สนามฝึกทางยุทธวิธี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2509 และ
ได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 24 เป็นหน่วยปกครองดูแลที่ดิน หน่วยจึงได้เริ่มส่งเจ้าหน้าที่
เข้าสํารวจแนวเขตตามแผนที่การจําแนกประเภทที่ดิน ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีตามมติคณะรัฐมนตรี
ดังกล่าว ปรากฏว่ามีราษฎรเข้าไปตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยและทํากินอยู่แล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของ
พื้นที่ทั้งหมด จึงได้รายงานไปตามสายการบังคับบัญชาให้กองทัพบกทราบมาโดยตลอด...”
การสํารวจรังวัดทางกายภาพของกรมธนารักษ์ในพื้นที่พิพาท ในปี 2540 - 2541 พบว่า
มีชาวบ้านที่มีเอกสารหลักฐานที่ดิน จํานวน 105 ราย เป็น น.ส.3 ก 67 ราย น.ส.3 15 ราย และ ส.ค.1
ที่แจ้งการครอบครองในปี 2498 จํานวน 23 ราย
ประวัติความเป็นมาของบ้านหนองไฮ ได้ถูกประกาศจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2478 ชาวบ้านในพื้นที่
บริเวณดังกล่าวจํานวนมาก มีหลักฐาน ส.ค.1 ตั้งแต่ปี 2498 ลักษณะภูมิประเทศเหมาะแก่การทําเกษตรกรรม
สอดคล้องกับเอกสารชี้แจงของ มทบ.24 ที่ยอมรับว่า “...สนามฝึกทางยุทธวิธีมีสภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบ
เหมาะสมแก่การเพาะปลูกทําการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง...”
การตรวจสอบของคณะอนุกรรมการฯ พบว่า ในพื้นที่มีร่องรอยของการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน
มายาวนาน โดยเฉพาะวัดบวรนิเวศธารามมีสภาพเก่าแก่ และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สอดคล้อง
กับคําให้การของผู้ร้อง
ั
การประชุมร่วมระหว่างอนุกรรมการฯ กับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปญหาในกรณี
ดังกล่าว ทั้ง 3 ครั้ง ตัวแทนมณฑลทหารบกที่ 24 ยอมรับว่า หน่วยทหารได้เข้ามาจัดตั้งในจังหวัดอุดรธานี
ตั้งแต่ปี 2463 แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการครอบครองใช้ประโยชน์ในพื้นที่พิพาท และนับตั้งแต่ได้มีการ
กันพื้นที่พิพาทไว้ เป็นสนามฝึกทางทหาร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2509 มณฑล
ทหารบกที่ 24 ไม่เคยใช้ประโยชน์ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีชาวบ้านจํานวนมาก ครอบครอง
อาศัยอยู่ในพื้นที่พิพาท สอดรับกับ “ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 256 - 257/2538
บันทึกเรื่อง สถานะทางกฎหมายของที่ดินที่สงวนหวงห้ามไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการแต่ทางราชการ
7‐44