Page 401 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 401
กรณีที่ 3 สํานักงานที่ดินจังหวัดตราด สาขาแหลมงอบ การนําเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ
ั
คณะกรรมการแก้ไขปญหาการบุกรกที่ดินของรัฐ จังหวัดตราด ซึ่งมีองค์ประกอบเฉพาะจากหน่วยงาน
ราชการที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานราชการยังเป็นคู่กรณีพิพาทกับชาวบ้านผู้เดือดร้อน จึงทําให้การ
ั
แก้ไขปญหาเป็นการพิจารณาข้อมูลหลักฐานที่ทางราชการทําขึ้นด้านเดียว ผู้ร้องไม่มีโอกาสในการ
ั
นําเสนอหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง กระบวนการแก้ไขปญหาดังกล่าวจึงถือเป็นละเมิดสิทธิมนุษยชน
และไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้อง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 60 บุคคลย่อมมีสิทธิ
มีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณา ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผลหรือ
อาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของตน และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา
58 บุคคลย่อมมีสิทธิมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทาง
ปกครองอันมีผลหรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของตน
2. รายงานผลการตรวจสอบที่ 355/2550 เรื่อง ที่ในที่ดิน กรณีที่ราชพัสดุทับที่ดินทํากิน
ของราษฎร ตําบลเชียงคาน อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
กรณีการร้องเรียนของราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตําบลเชียงคาน อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
ประมาณ 500 คน กําลังถูกเร่งรัดให้เช่าที่ดินราชพัสดุ ผู้ร้องขอให้หน่วยงานรัฐดําเนินการพิสูจน์สิทธิ
เนื่องด้วยเป็นที่ดินตกทอดจากบรรพบุรุษที่ครอบครองที่ดินก่อนปี พ.ศ. 2472 แต่ทางราชการอ้างว่า
มีการสงวนหวงห้ามให้เป็นสนามบินโดยมีเครื่องบินขึ้น-ลง จํานวน 2 ลํา ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 จึงได้
ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ เลขที่ 813 และมีหน่วยงานราชการ อาทิ โรงพยาบาลเชียงคาน ต้องการใช้
ที่ดินดังกล่าว ทําให้ชุมชนในพื้นที่ถูกขับไล่หลายครั้ง ในปี 2548 ราษฎรในพื้นที่ถูกกดดันให้ทําสัญญา
เช่าที่ราชพัสดุในราคาสูง โดยอ้างนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกันระหว่างทะเบียนที่ดิน
รกร้างว่างเปล่าซึ่งรัฐบาลหวงห้ามกับทะเบียนที่ราชพัสดุ ลย 813 ที่ขึ้นทะเบียนเมื่อปี พ.ศ. 2525 ทั้งที่
ทางสํานักงานธนารักษ์พื้นที่เลย อ้างว่าเป็นการขึ้นทะเบียนตามทะเบียนเดิม ข้อความเกี่ยวกับ
ขอบเขตที่ตั้งของแปลงที่ดินเปรียบเทียบกันได้ดังนี้
ตารางที่ 6 เปรียบเทียบทะเบียนที่ดินรกร้างว่างเปล่าซึ่งรัฐบาลหวงห้ามกับทะเบียนที่ราชพัสดุ
ทะเบียนเดิม (2480) ทะเบียนที่ราชพัสดุ (2525)
ทิศ
ขอบเขต ระยะ (เมตร) ขอบเขต ระยะ (เมตร)
เหนือ ทางหลวง 1,000 ถนนสายเชียงคาน-ปากชม 750
่
ใต้ ปาและทุ่งนา 1,000 ที่ดินเอกชน 1,000
ตะวันตก หมู่บ้านในเมือง 750 ทางสาธารณะ 1,000
่
ตะวันออก ปา 750 ที่ดินเอกชน 750
จากตารางพบว่า การนําเอาทะเบียนที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุมีความ
คลาดเคลื่อนไม่ตรงกันในสองจุด คือ ด้านที่แปลงที่ดินจดและระยะความยาวในแต่ละด้าน การที่ข้อความ
ในทะเบียนมีข้อความไม่ตรงกันมีนัยสําคัญที่กระทบต่อสิทธิในที่ดินของราษฎร กล่าวคือ ทางทิศเหนือ
ตามทะเบียนเดิมมิได้ระบุชื่อถนน ระบุเพียงว่า “ทางหลวง” ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ร้องโต้แย้งว่าขณะที่มีการ
7‐39