Page 40 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 40

19


               เฉพาะบางประเภทถือไดวามีความสําคัญเปนอยางยิ่งในการสงเสริมการคุมครองสิทธิมนุษยชนของกลุมผูที่อยู
               รวมกับเชื้อเอชไอวี

                       การศึกษาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีระดับประเทศ เปนการศึกษาเชิงเปรียบเทียบเพื่อวิเคราะห
               แนวนโยบายและกรอบกฎหมายที่เกี่ยวของกับการแกไขปญหาดานโรคเอดส โดยเฉพาะอยางยิ่งกฎหมาย
               เกี่ยวกับการขจัดการเลือกปฏิบัติกลุมผูติดเชื้อเอชไอวีในการประกอบอาชีพ สําหรับการศึกษาในสวนนี้มุงศึกษา
               ในประเด็นโครงสรางของกฎหมาย สถาบันที่ทําหนาที่กํากับดูแลกฎหมายและนโยบาย รวมตลอดถึงการ

               ติดตามประเมินผลการบังคับใชกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวกับการแกปญหาดานเอดส และประเด็นการเขาถึง
               ความยุติธรรม อาทิ การรองทุกข และการเยียวยาจากหนวยงานรับผิดชอบ
                       จากการศึกษาพบวา ในระดับประเทศ กรอบกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุมครองสิทธิผูติดเชื้อเอชไอวี
               สามารถแบงออกเปน 4 ประเภทดวยกัน กลาวคือ

                       1)  การคุมครองสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญ พบวา ประเทศสวนใหญทั่วโลกมีบทบัญญัติที่คุมครอง
                          สิทธิของประชาชนจากการถูกเลือกปฏิบัติ และสงเสริมใหประชาชนทั้งหญิงและชายมีความเสมอ
                          ภาคเทาเทียมในดานตางๆ รวมถึงความเสมอภาคในโลกแหงการทํางาน อยางไรก็ดี พบวา การ
                          บังคับใช และการดําเนินการรองทุกขตามสิทธิแหงรัฐธรรมนูญนั้นมีขั้นตอนที่ยุงยาก และใช

                          เวลานาน
                       2)  การคุมครองสิทธิภายใตกฎหมายสาขาตางๆ อาทิ กฎหมายเกี่ยวกับคนพิการ และกฎหมาย
                          แรงงานและการจางงาน ซึ่งอาจมีบทบัญญัติหามมิใหมีการเลือกปฏิบัติตอผูติดเชื้อเอชไอวีในการ

                          ประกอบอาชีพ
                       3)  การคุมครองสิทธิของผูติดเชื้อภายใตพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการแกไขปญหาโรคเอดสเปนการ
                          เฉพาะ นอกจากบทบัญญัติที่คุมครองผูติดเชื้อเอชไอวีจากการเลือกปฏิบัติแลว การบัญญัติ
                          กฎหมายในฐานะกฎหมายเฉพาะนี้ อาจมีบทบัญญัติที่เปนมาตรการการปองกัน และการ
                          ใหบริการดูแล เปนตน

                       4)  คําพิพากษา (Case law) ซึ่งวางหลักเกี่ยวกับการขจัดการเลือกปฏิบัติเนื่องมาจากเปนผูติดเชื้อ
                          เอชไอวี โดยสวนใหญจะพบในประเทศที่มีระบบกฎหมายจารีตประเพณี (common law)


                       แมวากรอบกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุมครองสิทธิผูติดเชื้อเอชไอวีจะมีความแตกตางกันไปขึ้นอยูกับ
               บริบทของแตละประเทศ แตกรอบกฎหมายทั้ง 4 ประเภทนี้สามารถนํามาใชเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติไดและ
               เปนหลักประกันสิทธิมนุษยชนของผูติดเชื้อเอชไอวีทั้งในการใชชีวิตประจําวันและในโลกของการทํางาน และ
               เปนแนวทางที่สําคัญในการกําหนดแนวนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวของ นอกจากนี้ในการพิจารณาแนวปฏิบัติ
               ที่ดีควรนําหลักการภายใตแนวปฏิบัติเรื่องโรคเอดสในโลกแหงการทํางานมาพิจารณาประกอบเพื่อเปน

               หลักประกันที่สําคัญใหกับกลุมแรงงานที่เปนผูติดเชื้อเอชไอวี

                       เพื่อประโยชนในการศึกษาเปรียบเทียบ การศึกษาครั้งนี้มีเกณฑในการคัดเลือกกรณีศึกษาดังตอไปนี้

                        1. ประเทศที่ไดรับการยอมรับจากประชาคมโลกวามีความกาวหนาในการพัฒนากฎหมายและ
               นโยบายเกี่ยวกับดานเอดสในลําดับตนๆ และดวยผลของการมีกฎหมายและนโยบายฯรวมถึงการบังคับใช
               กฎหมายอยางมีประสิทธิภาพ ทําใหกลุมผูติดเชื้อเอชไอวีไดรับการคุมครองดานสิทธิ และไดรับการเยียวยาใน
               กรณีที่สิทธิถูกละเมิด ไดแก เครือรัฐออสเตรเลีย
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45