Page 55 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 55

๔๖
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”




                  เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย ส่วนเรื่องปม และเทคนิคในทางกฎหมายระหว่างประเทศ ผมคิดว่าเรา

                  ต้องมานั่งคุยกัน และจัดเวทีอีกครั้งหนึ่ง



                         นายวีระวัฒน์ ตันปิชาติ  จากมูลนิธิพิทักษ์ประชาชาติ กล่าวว่า  แนวคิดในเรื่องปัญหาผู้ลี้ภัย

                  โดยขอบเขตก็ไม่แน่ใจว่าผู้ลี้ภัยประเทศใดบ้างที่อยู่ในค่าย สิ่งที่เป็นปัญหาที่เราต้องมอง คือ ขีดจ ากัดมี

                  หลายอย่างในส่าวนของเรา และมันไปเกี่ยวพันในเชิงความคิดหลาย ๆ อย่าง ซึ่งตนเองท างานตรงนั้นมัน

                  เป็นการต่อสู้เรื่องกระบวนการความคิดทั้งหมดถึงจะก าหนดออกมาเป็นกรอบได้ ถึงแม้เราจะไม่ได้เข้าไปสู่


                  อนุสัญญาแบบนั้น แต่การปฏิบัติของเรากับคนที่ลี้ภัยเหล่านั้น เราท าได้ดีกว่าเขาเยอะมาก มี

                  ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มพม่า แต่มีหลายกลุ่มที่ดูแลเขาจนกระทั่งเข้ามาสู่สถานะเป็นคนไทย


                         กรณีปัญหาของผู้ลี้ภัยชายแดนพม่ามันมีอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียว หรือว่าขึ้นอยู่

                  กับเราและรัฐบาลทหารพม่า อย่างน้อยที่สุดมันมีรัฐ หรือชนกลุ่มน้อยอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นเงื่อนไข


                  เพราะฉะนั้นเราจึงมองว่า เราไปพูดกับรัฐพม่า และองค์กรระหว่างประเทศ ๓ ส่วนนี้มันแก้ปัญหาไม่ได้ สิ่ง

                  ที่ปรากฏอยู่ตลอดเวลาหรืออยู่ในแนวคิดพัฒนาการ


                         สิ่งที่มองเห็น คือ ข้อเท็จจริงกับแนวทางการปฏิบัติไม่ไปด้วยกัน เพราะหลักการ/นโยบายด้าน

                  ความมั่นคงมันเป็นค าตอบที่สั้น และชัดเจน อธิบายได้ แต่ไม่รับผิดชอบ คือ



                         ๑)  การไม่ยอมรับเป็นผู้ลี้ภัยเพราะเกรงจะไปเข้าเงื่อนไขที่จะต้องรับตามหลักสากล


                         ๒) สถานการณ์ชายแดนโดยชนกลุ่มน้อยมันมีอยู่ตลอดเวลา มันเป็นฤดู สิ่งที่เป็นปัจจัยหนึ่งคือ

                             พื้นที่ของเรามันมีแหล่งที่จะให้ท ากิน ให้อาศัยดีกว่าบ้านเขา



                         คนที่อยู่ในที่พักพิง ถามว่า “ท าไมเขาไม่กลับไป” ก็เพราะว่ามันกลายเป็นแหล่งที่อยู่ที่อาศัย

                  กระบวนการจัดการตรงนั้นมันไม่ใช่กระบวนการจัดการโดยหน้าที่ หรือกฎหมาย  แต่มันมีจุดบกพร่อง

                  เยอะแยะ จะมองเห็นว่ามันมีกฎหมายหลาย ๆ อัน มติหลาย ๆ อันของชนกลุ่มน้อยที่มีอยู่ชัดเจน และยัง

                  ได้รับการปฏิบัติไม่ครบถ้วน เราต้องยอมรับความจริงตรงนี้ สิ่งที่มองเห็นคือว่าถ้าเราจะช่วยกันแก้ปัญหา


                  ตรงนี้ คือ เราจะต้องสร้างกระบวนการความคิดให้ไปถึงผู้มีอ านาจตัดสินใจได้ก่อน หรือการตั้งสภาวะ

                  แวดล้อมเพื่อไปกดดันให้ฝ่ายรัฐด าเนินการ
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60