Page 54 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 54

๔๕
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”




                  แล้วการเป็นภาคีของอนุสัญญาฯ จึงเป็นผลดีต่อเรา ตรงนี้ผมจะใช้โยงเข้าสู่ประเด็นสุดท้ายว่า

                  “ประวัติศาสตร์ได้สอนอะไรเราบ้าง”



                         การเลือกตั้งในพม่าเมื่อวันที่ ๗  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓  เราก็เห็นการอพยพข้ามา ประชากร

                  อพยพเข้ามามากที่สุดในเวลาอันสั้นในรอบ ๒๐  ปี ประมาณ ๒๕,๐๐๐  กว่าคน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นับจาก

                  วันที่ ๗  พฤศจิกายน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย และเป็นไปในทางลบ แต่ไม่เป็นข่าวในการเมือง

                  ระหว่างประเทศ พร้อม ๆ กับที่พม่าใช้ กองก าลังทหารบดขยี้กองก าลัง คะฉิ่น ณ บริเวณชายแดนจีนและ


                  พม่า สิ่งนี้ท าให้เกิดความลังเลและกังขาอยู่ว่า “รัฐบาลทหารพม่าก าลังเล่นนโยบาย ๒ ทาง” ค าถามจึงอยู่

                  ที่ว่า “เข้มข้นอย่างไร” ตอนนี้มันช้าเกินไปแล้ว วงล้อประวัติศาสตร์หมุนไปเรียบร้อยแล้ว  พม่าก าลังได้ท า

                  ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ การเป็นประธานอาเซียน ค.ศ. ๒๐๑๔  การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ และเปิดสนามบิน

                  เนปีดอ นานาชาติ



                         ที่น่าสนใจคือ “เมียวดี” มีการประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเป็นทางการ และบริษัทอิตัล

                  ไทย ได้ลงทุนที่เมืองทวาย ๒.๕  แสนล้านบาท (เฟสแรก) ซึ่งใหญ่กว่านิคมอุตสาหกรรมมาบพุด ๑๐  เท่า

                  ซึ่งเป็นความต้องการของพม่าที่จะท าให้เป็นเกตเวย์ เพื่อที่จะเชื่อมตลาดขณะนี้ไปสู่จีน อาเซียนทั้งมวล

                  และอินเดีย จะมีประชาการ ๓,๐๐๐ กว่าล้านเกินครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ทวายจะกลายเป็นฐานที่มั่น

                  ส าคัญของพม่า นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียว รัฐบาลทหารพม่าถือหุ้นร้อยละ ๒๕  ประเด็นคือว่า การ

                  เปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกเหล่านี้ของเศรษฐกิจ ผมอยากจะเชื่อว่า “ไม่กองก าลังของฝ่ายต่อต้านต้องยอม


                  จ านน กองก าลังของรัฐบาลเองก็จะต้องท าอะไรที่เป็นบวกมากขึ้น” ดังนั้นจึงส่งผลต่อการที่ผู้ลี้ภัยจะข้าม

                  มาฝั่งไทยจะน้อยลง เศรษฐกิจโตไม่ได้ถ้ามีการสู้รบ เพราะความมุ่งมั่นในทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลง

                  ในเชิงบวกจึงส่งผลต่อการที่รัฐไทยจะเป็นผู้รับภาระดูแลผู้ลี้ภัยน้อยลง และเมื่อเป็นเช่นนั้นเหตุผลในการ

                  ภาคีจึงมากขึ้น



                         ในทางวิชาการมีพื้นที่ที่มีความส าคัญทั้งในทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ๔ ประการ ได้แก่

                  ๑) เมืองหลวง ๒) สนามบินนานาชาติ ๓) ท่าเรือน ้าลึกสากล และ ๔) เมืองชายแดน โดยสรุปไม่ว่าจะเป็น

                  หลักสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ และ

                  สุดท้ายความเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคชายแดนไทย - พม่า ผมไม่เห็นเหตุผลที่เราจะไม่
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59