Page 48 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 48
๓๙
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
จากการประชุมกับ UNHCR เนื่องใจวาระครบรอบ ๖๐ ปี ของอนุสัญญาว่าด้วยผู้หนีภัย และ ๕๐
ปี บุคคลไร้รัฐ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ก าหนดนโยบายเรื่องผู้หนีภัยไว้ ๖ ประการ คือ
๑) การปรับปรุง ขยายเกณฑ์คัดกรองของผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราว และออกเอกสาร
ประจ าตัวที่ได้รับการลงทะเบียนแล้ว
๒) การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รักษาชายแดน และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิ่มความตระหนัก
ถึงหลักสิทธิมนุษยชน และความต้องการด้านความคุ้มครองของผู้หนีภัยจากการสู้รบ
๓) การขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้หนีภัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราว และบุคคลในความห่วงใย
อื่น ๆ ตามนโยบายการศึกษาภาคบังคับของรัฐบาลไทย
๔) การให้บุตรของผู้หนีภัย และของบุคคลในความดูแลกลุ่มอื่น ๆ เข้าถึงการคุ้มครองตาม
พระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก รวมทั้งให้บุคคลที่เกิดในประเทศไทยทุกคนมีสิทธิที่จะจดใน
ทะเบียนเกิด และสิทธิอื่น ๆ ภายใต้ข้อ ๗ ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการ
เมือง
๕) การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสัญชาติ เพื่อให้บุตรของผู้ลี้ภัยได้รับการจด
ทะเบียนเกิด และเอกสารประจ าตัวโดยทั่วถึง รวมทั้งการอนุญาตให้บุคคลจดทะเบียนเกิด
ย้อนหลังตามความเหมาะสม
๖) การเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในความร่วมมือระหว่างภูมิภาคบนพื้นฐานของหลักการ
แบ่งเบาภาระระหว่างประเทศ รวมทั้งแนวทางการรับมือความท้าทายด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ
เรื่องการชี้แจงกับต่างประเทศนั้นเป็นหน้าที่ที่ต้องท า แต่การแก้ไขปัญหาต้องเริ่มจากพื้นที่ต้นทาง
ประเทศไทยมีการด าเนินการเชิงรุกในเรื่องผู้หนีภัยสงครามจากประเทศเมียนมาร์หลายเรื่อง แต่ไม่ได้มีการ
ประชาสัมพันธ์ และในส่วนของพม่าก็มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ที่เห็นได้ชัด คือ รัฐบาลทหารพม่าเปิด
กว้างมากขึ้นที่จะเจรจาเรื่องผู้หนีภัยและบุคคลไร้รัฐ
เรื่องการมีหน่วยงานรับผิดชอบหรือเจ้าภาพในประเด็นผู้หนีภัยจากการสู้รบนั้น เมื่อเดือน
มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ กระทรวงการต่างประเทศช่วยเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม แต่สภาความมั่นคง