Page 47 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 47
๓๘
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
กระทรวงมหาดไทยเข้าไปช่วยเหลือปัจจัยขั้นพื้นฐานทางด้านการแพทย์ สาธารณสุข และการศึกษา
ฝึกอบรมวิชาชีพ
ผู้แทนกองก ากับการต ารวจตระเวนชายแดน
ผู้แทนต ารวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กล่าวว่า ตชด. มีบทบาทสนับสนุนเรื่องการรักษาความ
สงบเรียบร้อยในศูนย์พักพิง และตรวจสอบในการเดินทางเข้า-ออกนอกพื้นที่ รวมทั้งการประสานงานกับ
หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ เช่น เชียงราย ตาก และกาญจนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องการ
รักษาความสงบเรียบร้อย และการอ านวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ส าหรับนโยบายในการให้ความ
ช่วยเหลือก็เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมตามแนวทางของ UNHCR อยู่แล้ว
ผู้แทนส านักงานตรวจคนเข้าเมือง
ผู้แทนส านักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า ส านักงานตรวจคนเข้าเมืองมีบทบาทเป็นฝ่าย
สนับสนุน จะไม่ได้เข้าไปควบคุมโดยตรง ในส่วนของนโยบายต่อผู้ลี้ภัยจากการสู้รบจะเป็นไปตาม
แนวทางที่สภาความมั่นคง และกระทรวงมหาดไทยได้ก าหนดไว้ ซึ่งผู้ลี้ภัยจากการสู้รบก็ไม่ได้รับการ
ยกเว้นตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เพราะยังไม่ใช่กลุ่มคนที่เข้าเมืองอย่างถูกต้อง แต่
ถ้าคนที่เข้ามาอยู่ในที่พักพิงก็จ ากัดให้อยู่ได้ชั่วคราว และให้อยู่ในที่ ๆ จ ากัดไว้ แต่หากออกพื้นที่ก็ถือว่าผิด
เงื่อนไข และถ้ากระท าความผิดก็จะพิจารณาไปตามความผิดที่เกี่ยวข้อง
ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ
ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เรื่องผู้หนีภัยเป็นประเด็นที่ไทยได้รับการยอมรับ เพราะ
ให้ทั้งที่และคนในการดูแล หน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ คือ
๑) พยายามประชาสัมพันธ์ว่า การด าเนินการของไทยในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการ
สู้รบตามหลักมนุษยธรรม และบนพื้นฐานของการแบ่งเบาภาระระหว่างประเทศ
๒) ร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เฉพาะแต่ UNHCR แต่ก็ร่วมกับองค์การพัฒนา
เอกชน (NGOs) ต่าง ๆ ในการที่จะช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ และหาทางออกที่ยั่งยืน เพื่อช่วยให้
บุคคลเหล่านั้นมีทางออกต่อไป