Page 45 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 45

๓๖
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”




                         “อพยพมาจาก อ าเภอเก่อทะงุ้ง  จังหวัดซะเองซะจี ห่างจากชายแดนไทยเป็นระยะทางเดินเท้า ๒

                  วัน (ประมาณ  ๗๐ – ๘๐ กิโลเมตร เนื่องจากเขาเดินได้วันละประมาณ ๓๐ – ๔๐ กิโลเมตร) เพราะอยู่ที่


                  พม่าไม่ปลอดภัย ทั้งชีวิตและทรัพย์ เวลาที่เขาสู้รบกัน เมื่ออยากได้สิ่งของของเรา โดยเฉพาะข้าว ทั้งทหาร

                  พม่า ทหารกะเหรี่ยง ก็เข้ามาเอาเลย ถ้าทหารอยากได้ลูกเราเป็นลูกหาบ เราก็ต้องให้ ขัดไม่ได้   ตอนนี้

                  ลูกหลานก็มาอยู่ที่ประเทศไทยหมดแล้ว ไม่กลับไปแล้ว   อยู่เมืองไทยดีกว่า  อยู่ที่พม่านอนในบ้านไม่ได้

                  เลย”



                            ๑) อ าเภอแม่สาย  จังหวัดเชียงราย  การสู้รบครั้งใหญ่ในพม่าเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๓

                  ส่งผลกระทบมาถึงอ าเภอแม่สายด้วย  จากการสัมภาษณ์ผู้อ านวยการศูนย์พัฒนาการศึกษาเพื่อลูกหญิง

                  และชุมชน จ.เชียงราย พบว่า  ผู้ลี้ภัยที่เข้ามาทางด่านที่อ าเภอแม่สายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เข้ามา

                  อาศัยอยู่กับญาติ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safe  zone) ชายแดนฝั่งพม่าที่ติดกับเชียงรายเป็นเขตรัฐ

                  ฉาน มีทหารเป็นกองก าลังรักษาสันติภาพ เป็นเขตพลเมืองเป็นส่วนใหญ่ เป็นแหล่งผลิต จึงได้รับการรักษา

                  ไว้ให้เป็นอู่ข้าวอู่น ้า จึงเป็นเขตที่ค่อนข้างปลอดภัย บริเวณชายแดนที่มีการอพยพไป-มา จะอยู่ตามบริเวณ


                  ตะเข็บที่เป็นป่าเขาในเขตอ าเภอแม่ฟ้ าหลวง


                            ๒) อ าเภอเวียงแหง  จังหวัดเชียงใหม่  เป็นพื้นที่ติดชายแดนที่เคยมีการสู้รบครั้งใหญ่

                  ระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับกองก าลังรัฐฉานเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕  นานกว่าหนึ่งเดือน ฝ่ายทหารพม่าได้รับ

                  บาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจ านวนมาก ในระหว่างการสู้รบ ท าให้มีชาวบ้านจาก ๔  หมู่บ้านตามบริเวณ


                  ชายแดนพม่าอพยพเข้ามาในฝั่งไทยประมาณ ๙๐๐ คน / ๒๕๐ ครัวเรือน อาศัยอยู่ฝั่งไทยในบริเวณวัดฟ้ า

                  เวียงอินทร์ หลังเหตุการณ์สู้รบสงบ ทหารพม่าได้ปิดช่องทางผ่านแดนหลักแต่งและได้ฝังทุ่นระเบิดตาม

                  บริเวณชายแดนเป็นจ านวนมาก ส าหรับผู้ที่อพยพเข้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕  ปัจจุบันมีอยู่ ๑๓๒

                  ครัวเรือน ประชากร ๕๑๐  คนถูกจัดให้อยู่บนสันดอย “เมืองจ่อ”  ติดกับชายแดน ถูกจ ากัดพื้นที่ในการ

                  เดินทาง  แต่สามารถออกไปท างานรับจ้างในภาคเกษตรบริเวณใกล้เคียงได้ ผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ไม่ต้องการกลับ

                  พม่า เนื่องจากไม่มั่นใจสถานการณ์ความปลอดภัยในฝั่งพม่า เหตุผลที่ต้องการอยู่ในประเทศไทยคือ


                  การศึกษาของเด็ก  ไม่ทราบว่ามีกับระเบิดอยู่ที่ใดบ้าง และไม่มั่นใจในสถานการณ์ยุติการสู้รบอาจเป็น

                  สถานการณ์ชั่วคราว ช่องทางผ่านแดนหลักแต่งได้ถูกทหารพม่าปิดตายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50