Page 122 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 122

๑๑๓
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”


                         การเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ.๑๙๕๑ นั้นนอกจากจะทําให้ประเทศ


                  จะมีความสามารถมากขึ้นในการจัดการแก้ปัญหาเกี่ยวกับประชากรกลุ่มนี้โดยเหมาะสมภายใต้โครงสร้าง

                  ทางกฎหมายที่ถูกต้อง ยังจะทําให้ประเทศได้รับการยกย่องจากนานาชาติและเป็นการสร้างการคุ้มครอง

                  แก่บุคคลที่เสี่ยงภัยต่อการถูกสังหาร บุคคลเหล่านี้ก็จะสามารถสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศและ

                  หลุดพ้นจากการเป็นบุคคลที่ผิดกฎหมายและไม่มีตัวตนในสังคม



                         ข.  ข้อเสียของการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ.๑๙๕๑


                          การเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑  ทําให้รัฐมีหน้าที่คุ้มครอง

                  สิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ลี้ภัยตามที่ได้กําหนดไว้ในอนุสัญญา ซึ่งจะทําให้เกิดภาระด้านงบประมาณที่ใช้ใน

                  การดูแลผู้ลี้ภัย



                          นอกจากนี้ ยังกําหนดให้รัฐภาคีมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ  ทั้งในการปรับ

                  ใช้บทบัญญัติในอนุสัญญานี้  รัฐภาคีต้องจัดหาข่าวสารและข้อมูลทางสถิติซึ่งสํานักงานข้าหลวงใหญ่แห่ง

                  สหประชาชาติร้องขอเพื่อจัดทํารายงานต่อองค์กรซึ่งมีอํานาจของสหประชาชาติ ในเรื่องที่เกี่ยวกับ สภาวะ

                  ของผู้ลี้ภัย  การอนุวัติการของอนุสัญญานี้ และ กฎหมาย ข้อบังคับซึ่งมีผลบังคับหรืออาจจะมีผลบังคับที่

                  เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย  รัฐภาคีจะต้องแจ้งให้เลขาธิการสหประชาชาติทราบถึงกฎหมายและข้อบังคับ  ต่าง ๆ ของ

                  รัฐ ซึ่งรัฐต้องดําเนินการเพื่อปฏิบัติตามอนุสัญญานี้



                  ๕.๖  แนวทางการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัย และการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยตามหลักสิทธิมนุษยชน


                           “ผู้ลี้ภัย” ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งย่อมมีสิทธิขั้นพื้นฐานโดยเสมอภาคเท่าเทียมกับมนุษย์คนอื่น

                  ตามหลักสิทธิมนุษยชน สามารถดํารงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพ


                  ของตนเองอย่างเต็มที่และสร้างสรรค์  โดยสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิติดตัวผู้ลี้ภัยตลอดไปไม่ว่าจะอยู่ในเขต

                  ปกครองใด หรือเชื้อชาติ ภาษา ศาสนาใด


                         รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย พ.ศ.  ๒๕๕๐ ก็ได้บัญญัติรับรองสิทธิมนุษยชนของบุคคลไว้

                  อย่างชัดเจน ได้แก่  “ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ  และเสรีภาพของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง”


                  (มาตรา ๔),  “การใช้อํานาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร  ต้องคํานึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และ

                  เสรีภาพ” (มาตรา ๒๖),  และ “บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้
   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127