Page 118 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 118

๑๐๙
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”


                  เมียนมาร์เป็นปัญหาของประเทศไทยด้วยเช่นกัน ปัญหาความขัดแย้งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการค้าตาม


                  แนวชายแดน  การสู้รบที่รุนแรงภายหลังการเลือกตั้งในประเทศเมียนมาร์เมื่อปลายปี ๒๕๕๓  ทําให้เกิด

                  การอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ ๒๐  ปี โดยมีชนกลุ่มน้อยตามบริเวณชายแดนอพยพเข้าประเทศไทยใน

                  เขตพื้นที่จังหวัดตากติดกับจังหวัดเมียวดีของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

                  ประมาณ ๒๕,๐๐๐ คน ซึ่งประเทศไทยได้เข้าไปดูแลผู้ลี้ภัยโดยจัดที่พักพิงชั่วคราว จัดหาอาหาร และดูแล

                  สุขภาพอนามัยให้แก่ผู้ลี้ภัยนั้น เป็นนโยบายที่ดีที่พึงปฏิบัติต่อประเทศเพื่อนบ้าน  แต่ขณะเดียวกัน


                  ประเทศไทยควรจะทําการสรุปบทเรียนการส่งผู้ลี้ภัยสงครามกลับไปยังบ้านเกิดของตนภายใต้หลักการ

                  ของการส่งกลับที่ไม่เป็นการกดดันให้ไปเผชิญกับภัยอันตรายด้วยเช่นกัน


                  ๕.๕  ข้อดีและข้อเสียของการให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑


                          ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้วงล้อมของประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาความขัดแย้งภายในสูง

                  จนเกิดภาวะสงคราม นับตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีนเมื่อ ๓๐  กว่าปีที่ผ่านมา และความขัดแย้งภายใน


                  พม่าในปัจจุบัน ซึ่งทําให้ประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านอพยพลี้ภัยเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนั้น ได้มีเสียง

                  เรียกร้องจากนานาชาติให้ประเทศไทยให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ.๑๙๕๑ เพื่อให้

                  การบริหารจัดการเรื่องผู้ลี้ภัยมีความเป็นสากลมากขึ้น จึงควรทําการวิเคราะห์ว่า การเข้าเป็นภาคีของ

                  อนุสัญญาดังกล่าว ก่อให้เกิดผลดีและผลเสียต่อประเทศไทยอย่างไร



                         ก.  ข้อดีของการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑


                         ๑.  เป็นกรอบในการบริหารจัดการผู้ลี้ภัย


                          เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยทําให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายหลักของผู้ลี้ภัย

                  จํานวนมากในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม   ในช่วงที่ผ่านมาแม้ทางรัฐบาลไทยจะได้

                  ดําเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่การแก้ไขปัญหายังขาดวิธีการจัดการอย่างเป็นระบบและยังคง


                  มีปัญหาอุปสรรคในการดําเนินการอีกหลายประการ อาทิ ปัญหาในเรื่องกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่

                  ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง รวมถึงปัญหาในเรื่องทัศนคติของเจ้าหน้าที่  ผู้ปฏิบัติงาน จึงจําเป็นที่ทุกฝ่าย

                  ต้องร่วมกันพิจารณากําหนดแนวทางดําเนินงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์


                         ประเทศไทยจึงจําเป็นที่จะต้องมีกรอบทางกฎหมายเพื่อบริหารจัดการผู้ลี้ภัย และเป็นหลักประกัน


                  ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติงานโดยสุจริตให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานและลดโอกาสในการ
   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123