Page 127 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 127
๑๑๘
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
พิจารณาคัดกรองจากคณะกรรมการชุดนี้ โดยควรเปิดให้องค์กรภาคประชาสังคมที่มีความเชี่ยวชาญด้าน
ผู้ลี้ภัยเป็นคณะกรรมการด้วย
๑๐. รัฐบาลควรเพิ่มข้อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ จากเดิมที่รัฐจะรับให้
ความช่วยเหลือเฉพาะผู้ลี้ภัยความตายที่หนีภัยจากการสู้รบที่เป็นภัยถึงแก่ชีวิตโดยตรงอันเนื่องมาจาก
สงครามเท่านั้น ซึ่งควรเพิ่มการพิจารณารวมไปถึงผู้ที่หนีภัยความตายในรูปแบบอื่นด้วย เช่น ภัยจากการ
ถูกบังคับเกณฑ์แรงงาน ซึ่งการคุกคามดังกล่าวนําไปสู่การทารุณร่างกายและเป็นการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนขั้นรุนแรง สมควรได้รับการคุ้มครองดูแลเฉกเช่นเดียวกันผู้ลี้ภัยการสู้รบด้วย เนื่องจากเป็นภัยที่
เป็นอันตรายถึงชีวิตเช่นกัน
๑๑. รัฐบาลควรมีบทบาทในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยการ
สู้รบเชื้อชาติต่าง ๆ ที่เข้ามาในประเทศไทยทั้งในส่วนของพื้นที่พักพิงชั่วคราว ๙ แห่งและผู้ลี้ภัยการสู้รบที่
อยู่นอกพื้นที่พักพิงชั่วคราวที่ใช้ชีวิตร่วมสังคมเดียวกันกับประชาชนไทยเพื่อความเข้าใจอันดีของ
ประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งหากกลไกลของสังคมเช่น นักวิชาการ สื่อมวลชน ภาคธุรกิจและประชาชนมี
ความเข้าใจที่ตรงกับสภาพความเป็นจริงแล้วย่อมจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทําให้รัฐบาลวางนโยบายที่เหมาะสม
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
๑๒. สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ควรกําหนดแนวทางแก่
เจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ในทางที่จะเคารพหลักการไม่ผลักดันชาวพม่าที่
ลี้ภัยการสู้รบกลับไปเผชิญกับอันตรายที่จะเกิดขึ้น