Page 110 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 110

๑๐๑
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”


                  จะเป็นเรื่องความสนใจของภาคประชาสังคม การใช้โอกาสในเรื่องของมนุษยธรรมระหว่างประเทศ


                  โครงการพัฒนาต่าง ๆ และการลงทุนของต่างประเทศที่จะเข้าไปในพม่ามากขึ้น”


                         “อยากจะเรียกร้ององค์กรระหว่างประเทศ หรือว่าใครก็ตามที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิรูปพม่า

                  ให้คงยึดหลักไม่ทําอะไรที่ทําให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน และอยากให้เน้นเรื่องการสร้างความเข้มแข็ง

                  กับภาคประชาสังคม และชุมชน รวมทั้งในพม่า และที่ยังทํางานอยู่นอกประเทศ ก็จะเป็นส่วนช่วยอย่าง


                  มากในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมการปฏิรูป สําหรับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ

                  จะทําอย่างไรให้เกิดการเจรจาที่เท่าเทียมและมีความหมายทางการเมืองมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเรื่องนี้

                  เป็นพื้นฐานของความขัดแย้ง ถ้าไม่มีการพูดคุยในเรื่องทางการเมือง ก็จะไม่ก่อให้เกิดเสรีภาพที่ยั่งยืนได้

                  เพราะถ้าการพูดคุยในระดับของกลุ่มชาติพันธุ์กับรัฐบาลทหารพม่าเป็นเพียงแค่โครงการพัฒนา การแก้ไข

                  ปัญหารากลึกของความขัดแย้งก็จะไม่เกิดขึ้น”



                         นางทาร์ ซอ ตวน  กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า  ภาพการเจรจา และยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมัน

                  ไม่ได้นําไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ผู้คนก็ต้องตกอยู่ในภาวะที่หลบหนี และอาจเป็นภาระ

                  ของประเทศไทยในการรองรับให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านี้ และขอขอบคุณประเทศไทย หน่วยงาน

                  ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่เปิดโอกาสให้มาอยู่อาศัย และพยายามทํางานเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น


                  ในประเทศเมียนมาร์อย่างจริงจังในเรื่องการนําสันติสุขมาสู่ประเทศเมียนมาร์ และสิ่งที่สามารถทําได้ก็ต้อง

                  เกิดขึ้นจากความใจดี การเปิดโอกาส และความช่วยเหลือก็ยังต้องการอยู่ หวังว่าจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นไป

                  ด้วยกัน และยินดีที่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องคุ้มครองผู้ลี้ภัยสงคราม ขอเรียนว่ายังไม่น่าจะมีเรื่องนโยบายการ

                  ส่งกลับที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด และอยากเห็นภาพความช่วยเหลือจากประเทศยังคงอยู่



                  ๕.๒  สถานการณ์การสู้รบและความขัดแย้งที่ยังด ารงอยู่ในเมียนมาร์


                         จากการจัดสนทนากลุ่มผู้ลี้ภัยซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ที่อําเภอแม่สอด  ให้ข้อมูลว่า

                  ภายในพม่ายังคงมีกองกําลังอยู่ถึง ๑๒ กองกําลัง ได้แก่ Mynmar  National  Democracy  Alliance

                  (MNDA), Mynmar National Solidarity Party (MNSP), National Democracy Alliance Army (NDAA),

                  Shan State Army (SSA), New Democratic Army (Kachin:NDA), Kachine Defence Army (KDA),

                  Pa-O National Organization (PNO), Kayan New Land Party (KNLP), Kayinni’s National People’s
   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115