Page 107 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 107

๙๘
                                       รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”


                         “ในแง่ความพร้อมของประชาชนก็คงไม่พร้อม ดังนั้นจากนี้ไป การเมืองเพื่อประชาธิปไตยในพม่า


                  ที่ต้องเจอคือ ประชาชนว่า จะเข้าใจการเลือกตั้งอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลทหารพม่าไม่ได้ทําให้ประชาชน

                  ของเขาเข้าใจ ตัวอย่างในเรื่องนี้ เช่น กฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าประชาชนอยากอ่านประชาชนต้องซื้อ เขา

                  ไม่แจกให้ฟรี ๆ เหมือนประเทศไทย ทั้งกฎหมายเลือกตั้งก็ไม่ทําให้ประชาชนเข้าใจ มันจึงเหมือนรัฐบาล

                  เอาเปรียบ”



                         “ภารกิจเร่งด่วนในตอนนี้อย่างแรก คือ  ต้องให้สิทธิประชาชน นอกจากนั้นนักโทษการเมืองที่ถูก

                  ขุมขังทั้งหมดต้องปล่อยออกมา เพราะว่ารัฐบาลใช้กฎหมายรุนแรงและไม่ยุติธรรม รวมทั้งกฎหมายเหล่านี้

                  ก็ต้องยกเลิกเพราะปิดกั้นเสรีภาพประชาชน ยิ่งกว่านั้น การจัดการด้านเศรษฐกิจเองก็ยังไม่ยุติธรรม

                  คนรวยที่มีอํานาจและมีความใกล้ชิดผู้นําจะมีสิทธิมากกว่าคนอื่น ๆ ทําให้สังคมยังไม่มีความยุติธรรม

                  คอรัปชั่นมีสูงมาก หูตาประชาชนก็ถูกปิดกั้นเพราะสื่อถูกควบคุม อีกทั้ง เมื่อรัฐบาลวิตกกับความมั่นคง


                  ภายในก็ไม่มีเวลามาบริหารประเทศให้ประชาชนอิ่มท้อง มีกิน แต่ตอนนี้ประชาชนเริ่มเข้าใจมากขึ้นจึงไม่

                  ค่อยพอใจและเริ่มเรียกร้องมากขึ้น ทําให้รัฐบาลยิ่งกลัวประชาชนลุกฮือประท้วงเหมือนปี ๑๙๘๘  อีก

                  โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ ๒๐๐๘ ซึ่งมีหลายมาตราที่น่ากลัวมาก เช่น ทหารที่ทําผิดไม่ต้องขึ้นศาล หรือ ผบ.

                  สูงสุดมีสิทธิยึดอํานาจได้ถ้าเชื่อได้ว่าไม่สามารถดูแลความเรียบร้อยได้  มีหลายมาตรามากที่มีปัญหา แต่

                  บางข้อก็ดี ดังนั้นเบื้องต้น เราต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน  อีกทั้ง


                  บนแนวทางนี้ เราเชื่อว่าการเจรจาคือแนวทางที่ถูกต้อง แต่การเจรจานั้นต้องเท่าเทียมยุติธรรมต่อกัน

                  เพราะเรามีชนกลุ่มน้อยอยู่เป็นจํานวนมาก คนเหล่านี้ต้องมีสิทธิเท่าเทียมกัน”


                         นางทาร์ ซอ ตวน  (Tar Shaw  Thuan)จากองค์การสันนิบาตสตรีพม่า  แสดงทัศนะของตนต่อ

                  สถานการณ์ทางการเมืองในพม่า สรุปได้ ว่า หลังจากนางออง ซาน ซูจี ได้รับการปล่อยตัว ก็ได้มีการ


                  พูดคุยกันกับรัฐบาลทหาร หลังจากนั้นก็เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่มีนายพลเต็ง เส่ง เป็นประธานาธิบดี และ

                  รัฐบาลก็ได้มีการพยายามเจรจาให้มีการหยุดยิงกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่ติดอาวุธ และพยายามที่จะให้

                  การรวมกลุ่มกองกําลังรักษาชายแดน ความเคลื่อนไหวอีกส่วนหนึ่งก็คือ ความพยายามในการเปิดโอกาส

                  ให้ทางนักวิชาการต่าง ๆ ในประเทศร่วมปฏิรูประบบเศรษฐกิจ และเห็นได้ชัดเจนว่าในการนําเสนอข่าว

                  ของสื่อมวลชนในประเทศเมียนมาร์มีเสรีภาพมากขึ้น เช่น ภาพถ่ายการประชุม การพูดคุย หรือการ


                  เดินทางของออง ซาน ซูจี ก็ถูกเผยแพร่ในสื่อของประเทศเมียนมาร์ด้วย
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112