Page 106 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 106
๙๗
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
ต่อสู้ที่รุนแรง และคิดกันว่าเราจะไม่มีทางเข้าถึงเป้ าหมายที่วาดหวังถ้าใช้ความรุนแรง ทําให้ผมแยกตัว
ออกมาจาก ABSDF จนกระทั่ง ค.ศ.๒๐๐๔ ก็ก่อตั้ง Forum for Democracy in Burma ขึ้นมา ในนี้เรามี
๗ องค์กรย่อย ๆ กิจกรรมของเราก็มีทั้งงานรณรงค์ขอการสนับสนุนจากต่างประเทศ งานแถลงข่าวให้
ประชาคมโลกรับรู้ หาข้อมูลสนับสนุนหรือรายงานให้ผู้นําของเราทราบความเคลื่อนไหว นอกจากนั้นก็จะมี
ชุดจัดกิจกรรมในพม่า หาเครือข่าย สร้างฐานมวลชน ตลอดจนจัดกิจกรรมรณรงค์เกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐาน
ของ เพื่อให้ความรู้ประชาชนรู้จักเรียกร้องสิทธิของตน”
“ส่วนสถานการณ์การเมืองในพม่าตอนนี้เข้าใจว่า พรรค NLD ก่อนนี้ถูกโจมตีจากพรรครัฐบาล
ทหารพม่ามาหลายครั้ง แล้วเขาก็ไม่สามารถรณรงค์หาเสียง ไม่สามารถชี้แจงได้อย่างเปิดเผย เพราะเขา
ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ถูกต้อง ที่กําหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมจึงต้องหาวิธีแก้ไข หาช่องทางทําให้ได้ อีก
อย่างถ้าไม่จดทะเบียนก็ไม่มีสิทธิ์ลงเลือกตั้งได้ด้วย ไม่มีสิทธิ์แก้ไขกฎหมายในสภา แถมยังโดนข่มขี่ข่มเหง
ที่สําคัญพรรค NLD ยังได้รับการสนับสนุนจากจากประชาชนพม่าอยู่มาก ทําให้เขาต้องหาทางดึงเอา
ประชาชนที่ศรัทธาในตัวเขากลับคืนมาให้ได้ซึ่งในเวลานี้คือเวลาที่เหมาะสมที่เขาจะกลับมาเล่นได้”
“อีกประเด็นหนึ่งในรัฐสภาเอง ทั้งหมด ๖๖๖ คน ปัจจุบันร้อยละ ๘๔ เป็นคนของพรรค USDP
ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ทหารสนับสนุน และร้อยละ ๒๕ เป็นทหารอีกด้วย ดังนั้น การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นใน
เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๕ นี้ จะมีที่ว่างในสภา ๔๘ ที่นั่ง ซึ่งเข้าใจว่าพรรค NLD ตั้งใจจะลงแข่งขัน
เอาตําแหน่งนี้ด้วย แต่คงไม่ใช่ NLD พรรคเดียวนะที่จะลง แต่มีพรรคอื่น ๆ ร่วมถึง USDP ด้วย ส่วนการ
เลือกตั้งใหญ่ ค.ศ.๒๐๑๕ พรรค NLD จะได้ที่นั่งร้อยละเท่าไรไม่แน่ใจ เพราะการเลือกตั้งในพม่า มันไม่
เหมือนในประเทศไทยเลย มันคนละอย่างในประเทศไทยมีเสรีภาพมาก ได้มาตรฐานนานาชาติ
มีผู้สังเกตการณ์จากทั่วโลกมาสังเกตการณ์ได้อย่างเปิดเผย ที่พม่าไม่ใช่อย่างนั้น มันมีการโกง การขโมย
คะแนน การขู่ การทําทุกวิธีเพื่อให้ได้คะแนนมา มีหลาย ๆ พื้นที่ที่ชนกลุ่มน้อยอยู่ มีประชากร ๑.๖ ล้าน
ยังไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพราะรัฐบาลประกาศว่าเป็นพื้นที่ไม่สงบไม่เรียบร้อยจึงไม่มีการเลือกตั้ง กรณีไทยมี
การเลือกตั้งล่วงหน้า ที่พม่าใช้วิธีนี้โกง พรรค USDP ได้คะแนนล่วงหน้านี่เองจึงทําให้ชนะคะแนน เพราะ
พอลงไปถามชาวบ้านบางหมู่บ้านตอบว่าไม่รู้เรื่องเลยว่ามีการเลือกตั้ง พอตรวจสอบพบว่า ผู้นําหมู่บ้าน
มาเลือกตั้งล่วงหน้าแทนแล้ว เลือก USDP ด้วย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่” นายโซ อ่อง กล่าวยํ้า
พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่า การก้าวไปของขบวนประชาธิปไตยในพม่าจะต้องเริ่มที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกับ
ปล่อยนักโทษการเมืองก่อน โดยไม่มีข้อหาใด ๆ ทั้งสิ้น”