Page 103 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 103
๙๔
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งประเด็นสําคัญคือผู้พลัดถิ่นบริเวณชายแดนไทย-พม่า โดย
สํานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้ประเมินว่าภาคเหนือของรัฐคะขิ่นที่เป็นที่พักพิงของ
ชาวมุสลิมที่ไม่มีสัญชาติจํานวน ๗๕๐,๐๐๐ คน
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวม อาจกล่าวได้ว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-พม่าในปัจจุบัน
(เมษายน ๒๕๕๕) เปลี่ยนแปลงไปจาก พ.ศ. ๒๕๕๓ มาก กล่าวคือ การสู้รบภายในพม่าตามบริเวณ
ชายแดนสงบลง รัฐบาลทหารพม่าทําข้อตกลงหยุดยิงกับกองกําลังชนกลุ่มน้อย และประกาศว่า กอง
กําลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยซึ่งเคยต่อต้านพม่าได้หันมาร่วมพัฒนาชาติโดยการวางอาวุธแล้ว การปล่อย
นักโทษการเมืองจํานวนหนึ่งออกมาสู่อิสรภาพ รวมทั้งการทําสัญญายุติการสู้รบกับกองกําลังของชนกลุ่ม
น้อยบางกลุ่ม นอกจากนี้ รัฐบาลจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม โดยยอมให้นางอองซานซูจี จัดตั้งพรรค
การเมือง ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ซึ่งผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ในด้านเศรษฐกิจ เมือง
เมียวดี ถูกกําหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ เมืองทะวายกําลังมีการ
พัฒนาเศรษฐกิจอย่างคึกคัก โดยบริษัท อิตัลไทย เข้าไปลงทุน phrase แรก ๒.๔ แสนล้านบาท
สถานการณ์ดังกล่าว ในสายตาขององค์การของชาวพม่าที่ลี้ภัยสงครามออกมาตั้งถิ่นฐานอยู่นอก
ประเทศเห็นว่า การทําข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทหารพม่ากับกองกําลังของชนกลุ่มน้อย เป็นเพียง
สถานการณ์ชั่วคราว เนื่องจากรัฐบาลทหารพม่าชุดปัจจุบันต้องการสร้างภาพให้นานาชาติเห็นว่า พม่ามี
ความสงบดีแล้ว เพราะในอีก ๒ ปีข้างหน้า พม่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และจะต้องเป็น
ประธานอาเซียน ซึ่งดูเหมือนพม่ากําลังทําทุกวิถีทางที่จะให้ได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศมาก
ขึ้น แต่ในความเป็นจริง แหล่งข้อมูลภายในประเทศเมียนมาร์ ระบุว่า ยังคงมีนักโทษการเมืองอีกจํานวน
มากที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว อีกทั้งยังคงมีการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกองกําลังเอกราชคะ
ฉิ่น (Kachin Independence Organization - KIO) ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบเรื่องการย้ายถิ่นฐาน การไร้ที่
อยู่ของประชาชน การฆาตกรรม การเกณฑ์แรงงาน แหล่งข้อมูลภายในพม่ายืนยันว่า ยังคงมีการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนสูงโดยเฉพาะการเกณฑ์ชนกลุ่มน้อยเพื่อใช้แรงงานในการก่อสร้างสาธารณูปโภคใน
พื้นที่ ฉาน คะหยิ่น และคะยา รวมถึงเป็นแรงงานในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทางทหารในเขตรัฐมอญ และ
คะฉิ่น